บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาภายในเรื่อง
เตือนกันอีกสักครั้งว่าเนื้อหาต่อไปนี้จะอ้างอิงและเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากการได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Captain Marvel หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเผย และเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล นั่นคือ เรื่องของเทซเซอร์แร็ค หรือ Space Stone อีกหนึ่งอัญมณีสุดสำคัญบนถุงมืออินฟินิตี้ของธานอส อัญมณีอวกาศที่มีบทบาทใน MCU มาตั้งแต่ Captain America: The First Avengers ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลใหม่ปรากฎมาในภาพยนตร์เรื่องล่าสุด วันนี้เราจะมาเรียงไทม์ไลน์ของเจ้าอัญมณีเจ้าปัญหาเม็ดนี้กันว่ามันมีเรื่องราวอย่างไรบ้าง
จุดเริ่มต้น
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของจักรวาล 6 สิ่งที่เป็นพลังงานระดับคอสมิกได้แปรสภาพกลายมาเป็น Infinity Stones เทซเซอร์แร็คถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นภาชนะในการเก็บรักษา Space Stone โดยมันได้อยู่ร่วมกับอารยธรรมมาแล้วหลายต่อหลายอารยธรรม จนกระทั่งมันถูกเก็บรักษาโดยโอดิน แห่งแอสการ์ด แต่โอดินเลือกที่จะนำเทซเซอร์แร็คไปเก็บไว้ที่วิหารแห่งหนึ่งในเมือง Tønsberg ประเทศนอร์เวย์
เดือนมีนาคมปี 1942 - 1945 (Captain America: The First Avengers)
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะจบเพียง 3 ปี ผู้พันโยฮัน ชมิตย์ นายทหารคนสำคัญของนาซี ผู้หมกมุ่นและหลงใหลในตำนานเทพนอร์ส เขาได้บุกไปยังเมือง Tønsberg มุ่งตรงไปยังวิหารที่มีภาพสลักต้นไม้อิกดราซิล ที่นั่นเขาได้ค้นพบเทซเซอแร็ค และนำมันกลับไปยังฐานบัญชาการของ HYDRA เพื่อศึกษาวิจัยและใช้มันเพื่อสร้างอาวุธพิฆาตในชื่อ Valkyrie เป็นระเบิดที่มีอาณุภาพรุนแรงเทียบเท่านิวเคลียร์
นั่นทำให้ Captain America แห่งทีมฮาว์ลิ่งคอมมานเดอร์ และกองทัพสหรัฐฯ บุกไปเพื่อจะยับยั้งเหตุการณ์ดังกล่าว ผลที่เกิดขึ้นก็เป็นอย่างที่เราได้เห็นไปในภาพยนตร์ The First Avengers ระหว่างการต่อสู้ของทั้งสองคน จนอุปกรณ์ที่ Red Skull ใช้เพื่อควบคุมพลังของเทซเซอแร็คก็ได้เกิดความเสียหาย จนเทซเซอร์แร็คหลุดออกมา เมื่อเขาสัมผัสกับมันเขาก็ได้ถูกพลังของมันพาไปยังดาววอร์เมียร์ ตามที่ปรากฎใน Avengers: Infinity War ส่วนเทซเซอร์แร็คนั้นก็หลอมละลายพื้นยานจนตกลงไปสู่ทะเล
หลังปี 1945 (หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2)
เทซเซอร์แร็ค ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยฝีมือของฮาวเวิร์ด สตาร์ก ในระหว่างภารกิจค้นหาร่างของสตีฟ โรเจอร์ เข้าได้นำมันกลับไปเพื่อศึกษาที่หน่วย SSR ซึ่งภายหลังถูกยุบ รวมให้กลายเป็นหน่วย S.H.I.E.L.D ซึ่งทางหน่วยชิลด์ก็ได้รับคำสั่งจากสภาความมั่นคงโลกให้นำเทซเซอร์แร็คไปวิจัยและคิดค้นสร้างขึ้นมาเป็นอาวุธในสถานที่ที่เรียกว่าโปรเจ็คต์ P.E.G.A.S.U.S ซึ่งเป็นสถานที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้ง NASA และกองทัพอากาศสหรัฐฯ
ช่วงก่อนปี 1989 (Captain Marvel)
เทซเซอร์แร็คถูกนำไปเก็บและศึกษาในโปรเจ็คต์ P.E.G.A.S.U.S ที่ในขณะนั้นมีหนึ่งในมนุษย์ต่างดาวชาวครีที่ใช้ชื่อมนุษย์โลกว่า ดร.ลอว์สัน ได้ทำงานอยู่ด้วย เธอได้นำเทซเซอร์แร็คไปคิดค้นเพื่อสร้างเตาปฏิกรณ์ที่สร้างพลังงานในการเคลื่อนย้ายในระดับความเร็วแสง เป้าหมายเพื่อใช้ค้นหาสถานที่พักพิงให้กับเหยื่อสงครามระหว่างครีและสครัลล์ จนเธอนำมันไปเก็บรักษาเอาไว้ในห้องแลปของตนเองที่ซ่อนเอาไว้ในระบบวงโคจรรอบโลก
ปี 1989 (Captain Marvel)
ดร.ลอว์สัน หรือ Mar-Vell ได้คิดค้นเครื่องยนต์จากพลังงานของเทซเซอร์แร็คสำเร็จ จนกำลังจะทดสอบรุ่นต้นแบบ โดยในการทดสอบนี้มีนักบินหญิงคนสำคัญ แครอล เดนเวอร์สเข้าร่วมด้วย แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อชาวครีรู้เรื่องและต้องการมาแย่งชิงผลงานการคิดค้นของเธอไป จนเกิดการปะทะกัน Mar-Vell เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ และแครอลตัดสินใจทำลายเครื่องยนต์ จนทำให้เกิดการระเบิดจนพลังงานของมันอาบร่างของเธอ หลอมรวมเข้ากับ DNA ของ Mar-Vell ทำให้เธอมีพลังเหนือมนุษย์ ส่วนเทซเซอร์แร็คนั้นก็ยังคงถูกเก็บซ่อนไว้ในห้องแลปของ Mar-Vell ต่อไป
ปี 1995 (Captain Marvel)
เวิร์ส หนึ่งในหน่วยสตาร์ฟอร์ซของชาวครี ออกปฏิบัติการณ์เพื่อช่วยเหลือสายลับที่กำลังจะถูกเปิดโปงโดยเทโลส แห่งสครัลล์ แต่นั่นมันกลายเป็นกลลวงจนเธอถูกพาตัวไปล้วงข้อมูล เธอดิ้นรนจนหนีรอดออกมาได้ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุให้เธอร่วงตกกลับมายังโลก ณ ที่แห่งนั้นเธอค้นพบว่าเธอที่สูญเสียความทรงจำทั้งหมด มีความผูกพันกับดร. ลอว์สัน จนเธอสืบค้นความจริงว่าดร.ลอว์สัน คือหนึ่งในชาวครีที่หมายจะใช้เทซเซอร์แร็คในการสร้างเครื่องยนต์ความเร็วแสดงค้นหาบ้านให้เหยื่อสงคราม
แครอล, นิค ฟิวรี่ และมาเรียเดินทางไปยังห้องแลปที่ซ่อนไว้ในวงโคจรโลกของดร.ลอว์สัน หรือ Mar-Vell ที่นั่นเธอได้พบกับเทซเซอร์แร็ค และพยายามนำมันหลบซ่อนจากยอน-ร็อคค์ เหตุการณ์จบลงที่กูสเป็นผู้เขมือบเทซเซอร์แร็คเก็บเอาไว้ในตัวเอง และเธอตัดสินใจให้นิค ฟิวรี่เก็บมันเอาไว้อยู่บนโลก และจากฉากท้ายเครดิตตัวที่ 2 ของ Captain Marvel เราก็ได้เห็นกูสขย้อนเทซเซอร์แร็คออกมา ตอกย้ำยืนยันว่าตอนนี้เทซเซอร์แร็คได้อยู่ในมือของหน่วยชิลด์อย่างเป็นทางการ
ปี 2012 (The Avengers)
ดร.เซลวิค ได้ตกลงทำงานร่วมกับนิค ฟิวรี่ ในการศึกษาและวิจัยเทซเซอแร็ค โดยนิค ฟิวรี่ได้มอบหมายให้ฮอว์คอายหรือคลินท์ บาร์ตันดูแลความปลอดภัยในสถานที่ที่เรียกว่า Project P.E.G.A.S.U.S ซึ่งในขณะนั้นเองโลกิ ก็ได้เจรจากับธานอส เพื่อที่จะบุกโลกไปพร้อมกับกองทัพชิทอรี่ โดยจะชิงเทซเซอร์แร็คมาให้ธานอส เพื่อแลกกับการที่โลกิจะได้ปกครองโลก เหตุการณ์จบลงที่ความพ่ายแพ้ของโลกิ และเทซเซอร์แร็คก็ได้กลับไปสู่การดูแลของแอสการ์ด โดยธอร์และไฮม์ดัลล์ได้ใช้มันเพื่อซ่อมแซมสะพานไบฟรอสต์ รวมทั้งเก็บรักษามันเอาไว้ในคลังสมบัติของโอดินเช่นเคย
ปี 2017 (Thor: Ragnarok)
หลังจากจบศึกที่โซโคเวีย ธอร์ออกเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาอัญมณี Infinity Stones จนกระทั่งได้ค้นพบกับคำทำนายเหตุการณ์ล่มสลายของเหล่าเทพแอสการ์ด หรือที่เรียกกันว่า Ragnarok เบาะแสพาเขาไปสู่ดินแดนของยักษ์ไฟเซอร์เทอร์ เขาปราบมันแล้วพาเอามงกุฎของเจ้าแห่งยักษ์ไฟกลับไปยังแอสการ์ดเพื่อเก็บเอาไว้ในคลังสมบัติของโอดิน ณ ที่นั่นเขาได้พบว่าโอดินหายสาบสูญไป และโลกิก็ได้ปลอมตัวเป็นพ่อของเขาแล้วปกครองแอสการ์ดแทน
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือการแตกดับของโอดิน ทำให้เฮลาที่ถูกคุมขังไว้กลับมาทวงบัลลังก์ 2 เทพพี่น้องต้องหาพันธมิตรและร่วมมือกัน เมื่อพลังของเฮลาคือแอสการ์ด ธอร์ได้ตัดสินใจมอบหมายให้โลกิปลุกเซอร์เทอร์ด้วยมงกุฎที่เขานำมาเก็บไว้ในคลังสมบัติของโอดินมาเพื่อทำลายแอสการ์ดทิ้งเสีย เพื่อให้มันเป็นไปตามคำทำนาย Ragnarok แต่โลกิไม่ได้ทำแค่นั้น เพราะเขาหยิบเอาเทซเซอร์แร็คที่อยู่ในคลังสมบัติติดมือมาด้วย ทำให้ในฉากท้ายเครดิตเราได้เห็นยาน Sanctury II ของธานอสบุกมาประจันหน้ากับยานหลบหนีของชาวแอสการ์ด
ปี 2018 (Avengers: Infinity War)
เปิดเรื่องเริ่มต้นสงครามกันบนยานหลบหนีของชาวแอสการ์ดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ธอร์สิ้นท่าใต้ฝีมือของเหล่า Children of Thanos โลกิปรากฎตัวขึ้นมาเพื่อยื่นข้อแลกเปลี่ยน มอบเทซเซอร์แร็คเพื่อแลกกับชีวิตพี่ชาย แต่เขาพลาดท่าสิ้นชีพไปด้วยฝีมือของธานอส ในตอนนั้นเองที่ธานอสได้ทำลายเทซเซอร์แร็คที่เป็นภาชนะลง เหลือไว้เพียง Space Stone เข้าไปร่วมเป็นหนึ่งในอัญมณีบนถุงมือของธานอส
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวไทม์ไลน์การเดินทางของ Space Stone ที่ปรากฎในภาพยนตร์สูงถึง 5 เรื่อง เรียกได้ว่าอยู่มาตั้งแต่เริ่มต้นจักรวาลภาพยนตร์ Marvel เลยทีเดียว และเป็นอัญมณีที่มีอิทธิพลกับเนื้อเรื่องมาโดยตลอด ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าในภาพยนตร์เรื่องหน้าอย่าง Avengers: Endgame มันจะสำแดงเดชอย่างไรต่อไป แต่ตอนนี้ไปต้อนรับซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนใหม่ที่เธอพร้อมจะก้าวเท้าเข้าสู่ MCU แล้วกับ Captain Marvel ฉายแล้ววันนี้ที่ Major Cineplex
Source: marvelcinematicuniverse.fandom.com / TIME