HIGHLIGHT CONTENT

ตำนานที่แท้จริงของ แร็คนาร็อค เบื้องหลังการอวสานและเกิดใหม่ของเทพเจ้านอร์ส

  • 100,440
  • 01 พ.ย. 2017

 

ตำนานที่แท้จริงของ แร็คนาร็อค

เบื้องหลังการอวสานและเกิดใหม่ของเทพเจ้านอร์ส

 

 

                ได้ยินชื่อว่า แร็คนาร็อค หลายคนอาจจะนึกถึงเกมออนไลน์สุดโด่งดัง แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นชื่อของตำนานวันสิ้นโลกตามตำนานเทพเจ้านอร์ส ตำนานเทพของชาวสแกนดิเนเวีย หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของชาวไวกิ้งนั่นเอง และตอนนี้ Marvel Studio ก็ได้เลือกเอามาตีความและเล่าใหม่ในรูปแบบของภาพยนตร์ฮีโร่ที่เรากำลังจะได้ชมกันใน Thor: Ragnarok ซึ่งก่อนที่เราจะไปสัมผัสการสร้างสรรค์ใหม่นี้ มาลองดูกันก่อนว่าตามตำนานแล้ว แร็คนาร็อค เป็นอย่างไร? จะเหมือนกับในหนังไหม?? อ้อ...บทความนี้ไม่มีการสปอยล์เนื้อหาในภาพยนตร์นะครับ สบายใจได้

 

               

โลกิ เทพแห่งการหลอกลวง จุดเริ่มต้นของหายนะทั้งมวล

                โลกิ คือชื่อของเทพเจ้าแห่งการหลอกลวง เขาเป็นลูกของยักษ์น้ำแข็งแห่งดินแดนโยธันไฮม์ ผู้ที่เคยทำความดี(มาบ้าง) จนไปเข้าตามหาเทพโอดิน และถูกดึงตัวเข้ามาอยู่ร่วมวงวารเทพเจ้าในแอสการ์ด แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ไปมีความสัมพันธ์พิเศษกับยักษ์สาวที่ถูกทำนายว่าบรรดาลูกของหล่อน คือสัญญาณแห่งแร็คนาร็อค วันสิ้นโลกของเหล่าเทพเจ้า โดยทั้งโลกิและยักษ์สาวตนนี้ก็ได้ให้กำเนิดลูกออกมาจริง ๆ เป็น 3 สิ่งมีชีวิต ได้แก่

                หมาป่าตัวยักษ์ เฟนรี (เฟนริส), งูยักษ์จอกันมุนด์, และเฮล หญิงสาวที่ผูกพันธ์กับความตาย บ้างก็ว่าเธอมีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์อีกครึ่งหนึ่งเป็นซากศพ โอดินรู้เรื่องเข้าจึงได้จัดการกับลูกทั้งสามของโลกิ โดยจอกันมุนด์ถูกจับโยนลงไปใต้มหาสมุทร เฟนรีถูกล่ามด้วยโซ่วิเศษของคนแคระจนสิ้นฤทธิ์ ส่วนเฮล ถูกส่งไปเป็นเทพีแห่งขุมนรก นิลฟ์ไฮม์ ทั้งหมดทั้งมวลสร้างความคับแค้นให้โลกิเป็นอย่างมาก

 

               

การตายของเทพบัลเดอร์ จุดสิ้นสุดของความดีงามทั้งมวล

                บัลดอร์ คือเทพแห่งความดีงาม ผู้ได้รับพรให้ไม่สามารถตายได้จากสิ่งที่อวยพรให้เขา แต่โลกิต้องการจะทำลายความดีงามนี้ให้สิ้นลง เทพแห่งการหลอกลวงสืบค้นจนรู้ว่า มีเพียงต้นไม้มิสเซิลโทเท่านั้นที่ไม่ได้อวยพรให้เทพบัลเดอร์ เขาจึงได้นำไม้มิสเซลโทนี้เองมาเหลาเป็นลูกธนู และล่อลวงเทพองค์หนึ่งให้สังหารเทพบัลดอร์เสีย

                ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา เทพบัลดอร์สิ้นชีวิตลงไปพร้อม ๆ กับความดีงามของโลกที่หายไปเช่นกัน มนุษย์สูญสิ้นศีลธรรม เข่นฆ่ากันเอง พ่อฆ่าลูก พี่ชายฆ่าน้องสาว โลกตกอยู่ภายใต้ฤดูหนาวยาวนานกว่า 3 ปี เหล่าเทพร้องไปถึงเทพีแห่งนรก เฮล ว่าให้คืนดวงวิญญาณของบัลดอร์กลับมา เฮลตั้งใจจะคืนให้โดยมีเงื่อนไขเดียวก็คือ ทุกสรรพชีวิตบนมิดการ์ด (โลกมนุษย์) จะต้องหลั่งน้ำตาให้บัลดอร์เท่านั้น โลกิรู้เข้าจึงแปลงกายเป็นหญิงมนุษย์ผู้ไม่เสียน้ำตาให้ ทำให้บัลดอร์ไม่อาจกลับจากโลกหลังความตายได้อีกต่อไป

 

               

แร็คนาร็อคเริ่มต้น สงครามครั้งสุดท้ายของเหล่าเทพเจ้า

                โลกิรวบรวมกองทัพทั้งยักษ์น้ำแข็ง, ยักษ์ไฟ เซอร์เทอร์, งูยักษ์จอมุนกันด์ และวิญญาณจากนรก ขณะเดียวกันนั้นหมาป่าเฟนรีก็หลุดจากโซ่ล่ามที่คลายมนตราลง มันเข้ากลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ทำให้โลกทั้ง 9 ตกสู่ความมืดมิด นั่นทำให้ไฮม์ดัล ผู้มองเห็นสรรพสิ่งแห่งเทพเจ้าได้เป่าแตรเป็นสัญญาณให้เหล่าเทพเจ้าแห่งแอสการ์ดเตรียมกองทัพเพื่อเข้าสู่ศึกหายนะครั้งสุดท้าย โอดินนำทัพเทพเจ้าเข้าห้ำหั่น

                ผลการเข้าปะทะนำไปสู่ความสูญสิ้นของทุกฝ่าย โอดินถูกเฟนรีกลืนกิน และเฟนรีถูกวีดาร์ลูกสาวของโอดินสังหาร ธอร์เข้าจัดการจอมุนกันด์ได้สำเร็จ แต่เขาก็ถูกพิษของมันเล่นงานจนดับสูญ ในขณะที่โลกิเข้าปะทะกับไฮม์ดัลและเสียชีวิตไปทั้งคู่ เซอร์เทอร์เห็นท่าไม่ดีว่ากองทัพฝั่งตนไม่อาจเอาชนะสงครามนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ จึงได้กวัดแกว่งดาบไฟของตนเผาผลาญโลกทั้ง 9 จนทั้งหมดจมสู่มหาสมุทร สิ้นสุดทุกสรรพสิ่ง

 

               

 

การเริ่มต้นใหม่

                ท่ามกลางการสูญเสียนั้น มีมนุษย์หญิงชาย ลิฟท์ และ ลิฟท์ธาเซีย ที่ซ่อนตัวอยู่ในต้นอิกดราชิล ต้นไม้แห่งสรรพโลก พวกเขาและเหล่าเทพที่รอดชีวิต รวมทั้งเทพบัลดอร์ที่ฟื้นคืนกลับมาจากความตายได้ช่วยการสร้างโลกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นใหม่ของยุคสมัยใหม่ สะท้อนว่าแท้จริงแล้วชาวนอร์สนั้นล้วนเชื่อว่าทุกสิ่งมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ คล้ายกับการเวียนว่ายตายเกิดของศาสนาพุทธที่เราคุ้นเคยกันดี

 

 

                และนี่คือเรื่องราวตำนานแร็คนาร็อค (ฉบับสรุป) ที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากหนังเรากำลังจะได้ชมอยู่พอสมควร ใครที่ชื่นชอบตำนานเทพเจ้า และเป็นแฟนหนังฮีโร่ก็สามารถไปสัมผัสความมันส์ และบันเทิง (ไม่มืดมนเหมือนตำนานจริงแน่นอน) ของ Thor: Ragnarok ได้แล้ว 2 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

 

ข้อมูลจาก

http://www.ancient-origins.net/myths-legends/story-ragnarok-and-apocalypse-001352

https://norse-mythology.org/tales/ragnarok/

http://www.komkid.com/...B2%E0%B8%A1/

จอมเวทย์มหากาฬ

  • 26 October 2016
  • Adventure / แอ็คชัน / วิทยาศาสตร์ /
  • 115 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง