ซิ่งส์ไปบนถนนสายใหม่! สองจ่าฝูงในหนังเรื่องเดียวกับเส้นทางที่มุ่งสู่ Hobbs & Shaw

 

สองจ่าฝูง, ภาพยนตร์เรื่องเดียว ถนนมุ่งสู่ Hobbs & Shaw

 

นับแต่ถือกำเนิดในปี 2001 ภาพยนตร์แฟรนไชส์ชุด The Fast and the Furious ได้กลายมาเป็นกระแสฮือฮาระดับโลกที่มีคนดูที่ขยายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และได้สร้างรายได้มหาศาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภาพยนตร์ใหม่แต่ละตอน สร้างความตื่นเต้นและให้ความบันเทิงกับแฟนๆ ด้วยงานแอ็กชั่นสุดตระการตา แปลกใหม่ และครอบครัวตัวละครที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้คนในทุกวัฒนธรรมและทุกภาษา

 

ในฐานะภาคขยายตอนแรกของภาพยนตร์แฟรนไชส์ชุดนี้ Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ได้เพิ่มทั้งอารมณ์ขันเจ็บๆ คันๆ และงานแอ็กชั่นเดิมพันสูงในแบบไม่เคยมีมาก่อน และจะพาแฟนๆ ซิ่งส์ไปบนถนนสายใหม่ เมื่อตัวละครขวัญใจแฟนๆ อย่าง ลุค ฮ็อบส์ และเด็คการ์ด ชอว์ ได้ผนึกกำลังกันในแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ และทำให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสเรื่องราวความเป็นมาของพวกเขา

 

คริส มอร์แกน มือเขียนบท/ ผู้อำนวยการสร้างของ Hobbs & Shaw เริ่มต้นทำงานกับภาพยนตร์ชุดนี้ใน The Fast and the Furious: Tokyo Drift ผลงานกำกับของ จัสติน ลิน ซึ่งเป็นภาคที่ 3 ของภาพยนตร์ชุดนี้ มอร์แกนได้เปลี่ยนกลุ่มนักซิ่งส์ข้างถนนใต้ดินให้กลายเป็นกลุ่มนักโทษหนีคดีที่ต้องปล้นเดิมพันสูงในเวทีระดับโลก จากนั้นเขาได้เพิ่มศัตรูใหม่ๆ ที่มีอันตรายเข้าไป

 

 

การที่มีภาพยนตร์ Fast & Furious ถึง 6 ภาคเป็นประวัติผลงาน มอร์แกนยังคงวางเรื่องราวที่คาดไม่ถึงในภาพยนตร์เหล่านี้ พร้อมกับฉากที่อาจทำให้ต้องอ้าปากค้าง ทำให้คนดูแทบลืมหายใจ ภาพยนตร์ Fast ยังอัดแน่นไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์ดึงดูด ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้มีการขยายตอนต่อออกมาเป็นภาคแยกสแตนด์อะโลน ที่มาพร้อมสองตัวละครที่คนดูชื่นชอบ นั่นก็คือ ลุค ฮ็อบส์ และเด็คการ์ด ชอว์ อย่างไรก็ดี ไอเดียที่ว่านี้ถือเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่ง ก่อนที่ตัวละคร เด็คการ์ด ชอว์ ของสเตแธม จะปรากฎตัวให้เห็นครั้งแรกโดยเป็นบทบาทที่ไม่มีเครดิตในภาพยนตร์ปี 2013 เรื่องFast & Furious 6 พวกเขาได้วางแผนการที่จะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับฮ็อบส์ที่เป็นภาคแยกอยู่แล้ว

 

ตัวละคร ฮ็อบส์ ของดเวย์น จอห์นสัน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ปี 2011 เรื่อง Fast Five โดยเขาเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสเอสที่ได้รับมอบหมายให้จับตัว ดอม (วิน ดีเซล), ไบรอัน (พอล วอล์กเกอร์) และมีอา (จอร์ดาน่า บรูว์สเตอร์) คือศัตรู แน่นอนว่าในที่สุด ฮ็อบส์ กลายมาเป็นพันธมิตรที่คาดไม่ถึงของทีมขาซิ่งส์ในภาพยนตร์ถึงสี่ภาค แต่มีการเปิดเผยถึงความเป็นมาส่วนตัวของเขาน้อยมาก มีการเปิดเผยใน Furious 7 ว่าฮ็อบส์มีลูกสาวที่ชื่อ ซาแมนธา นั่นคือครั้งแรกที่มีนำเสนอเรื่องราวส่วนตัวของเขา

 

จอห์นสัน ผู้ตั้งชื่อลูกสุนัขพันธุ์บูลด็อกของเขาตามชื่อตัวละครตัวนี้ รู้อยู่แก่ใจเสมอมาว่า ฮ็อบส์คือตัวละครที่กำลังรอเวลา “นับแต่ตอนเริ่มต้นใน Fast Five ตัวละคร ลุค ฮ็อบส์ ก็ดูจะโดนใจคนดู ผมมีความสุขเสมอกับทิศทางของเขาในภาพยนตร์สี่เรื่องที่ผ่านมา” จอห์นสันกล่าว “ผมรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเราต้องสร้างเรื่องราวของเขาแยกออกมา เพื่อเจาะลึกชีวิตและความเป็นมาเกี่ยวกับครอบครัวของเขา เพื่อจะดูว่าอะไรที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ และเขารับมือกับความล้มเหลวอย่างไร การจะทำเช่นนั้นมันคือความท้าทายเสมอเมื่อคุณมีทีมนักแสดงทีมใหญ่อย่างที่ Fast and Furious มี ผมต้องการให้ในสิ่งที่ตัวละครตัวนี้สมควรได้จริงๆ ครับ”

 

 

มอร์แกนมักสนุกกับการสร้างตัวละครผู้พิทักษ์กฎหมายที่มีบุคลิกยิ่งใหญ่ เขาได้ทำงานกับจอห์นสัน และไฮแรม การ์เซีย ประธานของบริษัท เซเว่น บั๊คส์ โปรดักชั่นของจอห์นสัน ในภาพยนตร์ Fast หลายภาคที่มีบทบาทของฮ็อบส์อยู่ ทั้งนี้เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับพัฒนาการของตัวละคร ทั้งสามคนมักลงเอยด้วยการส่งเสียงหัวเราะตลอดขั้นตอนการทำงาน ขั้นตอนนี้ได้กลายมาเป็นการระดมพลังสมองเพื่อสร้างภาพยนตร์ที่เป็นท่อนแยกที่มีฮ็อบส์เป็นตัวละครเอก

 

            “ในภาพยนตร์ชุด Fast นี้ การทำงานร่วมกันระหว่างผมกับผู้กำกับเก่งๆ เหล่านี้แต่ละคน และทีมนักแสดงที่สุดยอดมากกลุ่มนี้ คือแง่มุมที่สนุกที่สุดครับ” มอร์แกนกล่าว “ดเวย์น, ไฮแรม และผม ก็แค่กระโดดเข้ามาและเริ่มต้นเสนอไอเดียถึงสิ่งที่ฮ็อบส์จะทำและจะไม่ทำ เราลงเอยด้วยการหัวเราะ และสนุกกันมากครับ ผมคิดว่าความรู้สึกนั้นถูกส่งผ่านไปบนจอภาพยนตร์ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมตัวละครตัวนี้ถึงได้ดูสนุกนัก เพราะมีความสนุกอยู่เบื้องหลังทุกอย่างที่เราทำให้สนุกครับ”

 

จอห์นสันและการ์เซียรู้ดีว่าพวกเขาอยากนำเสนอประวัติส่วนตัวของฮ็อบส์อย่างไรเมื่อขึ้นจอใหญ่ ดังนั้น พวกเขาจึงเริ่มหารือกับมอร์แกนเกี่ยวกับจุดต่างๆ ในเรื่อง

ขณะเดียวกัน แฟนๆ ต่างเคยได้ลิ้มรสการปะทะกันระหว่างฮ็อบส์และตัวละคร ชอว์ ของสเตแธม ในภาพยนตร์ปี 2015 เรื่อง Furious 7 มาแล้ว ซึ่งทำให้ฮ็อบส์ต้องเข้าโรงพยาบาล จากนั้น ฮ็อบส์ยังกล่าวคำพูดเด็ดๆ เอาไว้ตอนที่เขาพาตัว ชอว์ ไปเข้าคุกในตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนั้น

 

 

สำหรับพลอตเรื่องของภาพยนตร์เรื่องต่อมา นั่นก็คือภาพยนตร์ปี 2017 เรื่อง The Fate of the Furious ถูกผลักดันด้วยโครงเรื่องของครอบครัว แต่ความสนุกเกิดมาจากการโต้ตอบระหว่างฮ็อบส์กับชอว์ กับฉากแอ็กชั่นที่ทำให้อ้าปากค้าง เมื่อ ชอว์ ตัวละครของสเตแธม พยายามจะหนี และฮ็อบส์พยายามหยุดเขา

 

การถ่ายทำฉากเหล่านั้น จอห์นสันและสเตแธม ต่างพูดถึงการจับคู่ที่พวกเขากำลังสร้างขึ้น วงล้อเริ่มหมุนแล้ว “เมื่อการถ่ายทำของ The Fate of the Furious เริ่มต้นขึ้น เจสันและผมเริ่มลงตัวกับจังหวะง่ายๆ นี้” จอห์นสันเล่า “ไม่ใช่เพียงเพราะเราเริ่มหายใจเอาพลังที่แสนเท่นี้เข้าไปในฉากของเราเท่านั้น แต่เป็นเพราะยังมีความเข้าขากันที่เริ่มต้นเกิดขึ้นระหว่างเรา มันคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ในทันที แต่ไม่ได้มีแค่เราเท่านั้นนะครับ ผมจำได้ว่าผมถามไฮแรมและคริส มอร์แกน พวกเขาก็เห็นด้วย ฮ็อบส์และชอว์คือจ่าฝูงสองตัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีทั้งความนับถือกัน เกลียดกัน และบ่อยครั้งที่สิ่งนั้นคือแรงผลักดันที่ดีที่สุดในภาพยนตร์” สิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับทุกคนในทันทีก็คือ ลุค ฮ็อบส์ และเด็คการ์ด ชอว์ ควรจะมีภาพยนตร์ของพวกเขาสองคนอยู่ในเรื่องเดียวกัน ไอเดียที่กลายมาเป็น Hobbs & Shaw จึงถือกำเนิดขึ้น

 

 

ความเป็นอริและความตึงเครียดระหว่างสองตัวละครนี้ ทำให้ มอร์แกน มีโอกาสได้ใส่ความเป็นภาพยนตร์ตลกเข้าไป จอห์นสันมองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเป็นภาพยนตร์ตลกแอ็กชั่นในทันที “ภาพยนตร์แฟรนไชส์  Fast จะเป็นงานดราม่าแอ็กชั่นเสียมากกว่าครับ” จอห์นสันบอก “มันใหญ่ มันสนุก มันน่าตื่นเต้น กับ Hobbs & Shaw เรายังคงอยู่ในโลกของ Fast แต่เรื่องราวนี้ทำให้เราสามารถก้าวสู่โลกของภาพยนตร์ตลกแอ็กชั่นได้ ซึ่งมันส่งผลดีในทุกระดับเลยครับ”

 

            สเตแธมมองเห็นถึงโอกาสที่จะขุดลึกลงไปในประวัติความเป็นมาของชอว์ และเขาก็ตกลงใจที่จะไม่ใช่แค่แสดงนำใน Hobbs & Shaw เท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ชอว์ยังคงเป็นคนเดิม แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อตัวเขาไป “สุดท้าย เราก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชอว์มากขึ้น” สเตแธมอธิบาย “ผมมองเสมอว่าเขาคือผู้ชายที่ยึดมั่นกับหลักการ และหลักของเขาก็มีความหนักแน่นและน่านับถือ เขาคอยดูแลครอบครัวนี้ในทุกเรื่อง ชอว์คือผู้ชายที่จะทำสิ่งที่เหมาะสมให้น้องสาวของเขา และพยายามที่จะรักษาความแตกแยกของครอบครัว การโดนกาหัวว่าเขาคือผู้ร้ายมันคือการเข้าใจผิด”

 

 

Hobbs and Shaw วันนี้ ในโรงภาพยนตร์