ไขความลับในไข่ปริศนา ของ เดอะนัทแครกเกอร์ อลังการเทียบชั้นวันเดอร์แลนด์!!

หากพูดถึงหนังแฟนตาซีที่มีสีสันและเรื่องราวการผจญภัยที่แปลกตาและมหัศจรรย์ หลายคนอาจจะนึกถึง อลิซ ในดินแดนมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานขึ้นหิ้งของทิม เบอร์ตัน แต่ในปีนี้มีหนังอีกเรื่องที่ถือได้ว่าแฟนตาซีเทียบชั้นอลิซได้เลย นั่นคือ The Nutcracker and the four realms ผลงานล่าสุดของวอล์ท ดิสนีย์ สตูโอที่การันตีคุณภาพความสนุกและดูได้ทั้งครอบครัว  

The Nutcracker and the four realms เป็นเรื่องราวของคลาร่า เด็กหญิงสาวที่เพิ่งจะสูญเสียแม่ ไปไม่นาน แต่ในเทศกาลคริสมาสต์ที่กำลังจะมาถึงเธอกลับได้รับของขวัญจากแม่ ซึ่งของชิ้นนั้นเป็นไข่ปริศนาที่ล็อคไว้และแม่ก็ไม่ได้ให้กุญแจกับเธอไว้ การออกตามหากุญแจเพื่อไขความลับในไข่จึงเริ่มต้นขึ้นและนำพาเธอเข้าไปสู่อาณาจักรมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ เช่น อาณาจักรของหวาน อาณาจักรเกล็ดหิมะ อาณาจักรดอกไม้และอาณาจักรที่ 4 ซึ่งเป็นดินแดนอันตราย คลาร่า ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าหญิง โดยภารกิจของเธอคือไปเอากุญแจที่อยู่ในดินแดนที่ 4 นำมากอบกู้อาณาจักรมหัศจรรย์ไม่ให้ล่มสลาย 

ความน่าสนใจของ The Nutcracker and the four realms คือการรับบทนำของแมคเคนซี ฟอย ที่ตอนนี้โตเป็นสาวและสวยมาก เธอสง่างามและชาญฉลาดสมบทบาทความเป็นเจ้าหญิงคล่า พาคนดูให้หลงไปกับมนต์เสน่ห์ สมทบด้วยการแสดงของเคียร่า ไนท์ลีย์ ในบทชูการ์ พลัม ที่เรื่องนี้เธอฉีกแนวมารับบทหวานตลกไร้สมองซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นเธอเล่นบทนี้จากหนังเรื่องไหนมาก่อน,เฮเลน มิร์เรน มารับบทเป็นมาเธอร์จิงเจอร์ ผู้ครองอาณาจักรที่ 4 เป็นการฉีกมาเล่นหนังแฟนตาซีเช่นเดียวกันหลังจากที่ก่อนหน้านี้เราคุ้นเธอในบทบาทดราม่าเป็นส่วนใหญ่ 

อีกความสนุกของThe Nutcracker คือเราไม่รู้ว่าข้างหน้าตัวละครจะเจอกับอุปสรรคอะไรและมันจะมาในรูปแบบไหน คาดเดาได้ยาก ฉากผจญภัยเริ่มต้นขึ้นเมื่อคลาร่าเดินตามเชือกนำทางผ่านอุโมงค์ต้นไม้ไปเจอกับอาณาจักรที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ที่นั่นเธอได้พบกับ The Nutcracker หุ่นทหารของเล่นที่มีชีวิต พาเธอท่องอาณาจักรและสู้กับเหล่าร้าย รวมถึงเรื่องราวที่หักมุมในตอนท้ายที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับการรู้จักตัวเองและเข้าใจคนในครอบครัว เปรียบเสมือนของขวัญที่มอบให้กับคนดูก่อนที่เทศกาลคริสมาสต์จะมาถึง

The Nutcracker and the four realms ถือเป็นหนังที่มีภาพอลังการมากของดิสนีย์ในปีนี้ มีสีสัน รายละเอียดและความใหญ่โตสมกับเรื่องราวอาณาจักร ที่แต่ละอาณาจักรก็จะมีเสื้อผ้าคอสตูมและการตกแต่งแตกต่างกันไป ผสมผสานกับจินตนาการและดนตรีที่ถ่ายทอดมาจากเรื่องราวบัลเล่ต์ที่เป็นต้นกำเนิดทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการดูหนังผสมโชว์ที่ตลอดการเดินทางของคลาร่าเราไม่เบื่อเลย