HIGHLIGHT CONTENT

The Batman ฉบับใหม่กับ 5 เหตุผลที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!!

  • 1,752
  • 23 ก.พ. 2022

 1. การพลิกบทบาทของแวมไพร์หนุ่ม โรเบิร์ต แพททินสัน

โรเบิร์ต แพททินสัน โด่งดังขีดสุดจากภาพยนตร์ชุด ทไวไลท์ ในบทเอ็ดเวิร์ด แวมไพร์ทายาทที่ตกหลุมรักกับเบลล่า หรือ คริสเตน สจ๊วต ส่งผลให้เขาได้รับภาพจำเป็นหนุ่มแวมไพร์มานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โรเบิร์ต แพททินสัน ยังมีผลงานหนังอีกหลายเรื่องทั้งฟอร์มเล็กและฟอร์มใหญ่อย่างการร่วมงานกับผู้กำกับคนดังอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลน ใน Tenet การมารับบทบรูซ เวย์น ในครั้งนี้ทำให้หลายคนตั้งตารอคอยว่าเขาจะสามารถสลัดภาพของแวมไพร์หนุ่มนักรักและเข้าสู่โหมดแบทแมนผู้เคร่งขรึมได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ แพททินสันต้องเตรียมตัวพัฒนาทักษะการแสดงและเตรียมร่างกายด้วยการออกกำลังอย่างหนัก ต้องวิ่งเป็นระยะกว่า 5-10 กิโลเมตร เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมด้วยการถ่วงน้ำหนักด้วยถุงทรายตามสไตล์การออกกำลังกายทางการทหาร นอกจากนี้แล้วยังฝึกชกมวยด้วยเช่นกัน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนั้นทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารด้วย

 

2. The Batman กำกับภาพยนตร์โดย แมตต์ รีฟส์

แมตต์ รีฟส์ ถือเป็นผู้กำกับที่น่าจับตามอง จากการสร้างหนังแนวสัตว์ประหลาดระทึกขวัญ Cloverfield จากทุนสร้างแค่ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปจนถึง 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนมามีหนังภาคต่อใน 10 Cloverfield Lane ต่อมา แมตต์ รีฟส์ ยังได้กำกับ s Dawn of the Planet of the Apes (2014) และ War for the Planet of the Apes (2017) ซึ่งเป็นหนังภาคต่อและปิดอวสานของหนังขึ้นหิ้งอย่างพิภพวานรด้วย ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ท่วมท้นไม่แพ้กัน Dawn of the Planet of the Apes คะแนนบนเว็บมะเขือเทศ เทบวกไปถึง 90% และ War for the Planet of the Apes คะแนนเทบวกไปกว่า 94% จากทุนสร้างรวมกันสองภาค 320 ล้านดอลาร์สหรัฐ แต่หนังสามารถทำเงินรวมทั้งสองภาคไปกว่า 1200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว เรียกได้ว่าดีกรีของผู้กำกับคนนี้น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

3. การกลับมาในรอบ 5 ปี ของแบทแมน

เปลี่ยนเส้นทางจากหนังจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ สู่ หนังเดี่ยว ที่มุ่งเน้นการเล่าเรื่องของตัวละครแบทแมน คล้ายกับที่วอเนอร์เคยประสบความสำเร็จกับ โจ๊กเกอร์ หนังวายร้ายแบทแมน ที่นำแสดงโดย วาคีน ฟีนิกซ์ ซึ่งส่งผลความสำเร็จทั้งกระแสวิจารณ์และรายได้ รวมถึงหนังยังประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการส่งให้ วาคีน ฟีนิกซ์ คว้าออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย ไม่แน่ว่า การที่ DC มุ่งโฟกัสไปที่ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งและถ่ายทอดความเป็นตัวตนที่แท้จริงทั้งเบื้องหน้าและภายในจิตใจ อาจจะเป็นแนวทางและตัวตนใหม่ของหนังซูเปอร์ฮีโร่คนนี้

 

4. การรับช่วงต่อจากมรสุมของเบน แอฟเฟลค

เบน แอฟเฟลค ผู้รับบทบรูซ เวย์น คนที่แล้ว เขา ปรากฏตัวครั้งแรกในบทอัศวินรัตติกาลใน Batman v Superman: Dawn of Justice และต่อด้วย Justice League แต่หนังได้รับเสียงวิจารณ์และกระแสตอบรับจากกลุ่มผู้ชมไม่ค่อยดีเท่าควร ซึ่งเบน แอฟเฟลค เคยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าสาเหตุที่เขาออกจากบทบาทนี้เพราะกำลังประสบกับมรสุมชีวิตอย่างหนัก จากปัญหาเกี่ยวกับการติดแอลกอฮอล์, การหย่าร้างกับ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์) รวมไปถึงกระแสตอบรับด้านลบ จากโปรเจ็ค Justice League ที่ล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นให้เขาต้องออกจากบท บรูซ เวย์น แต่ในขณะนั้นได้มีการวางแผนงานสร้างหนังเดี่ยวของ The Batman ของแมต รีฟส์แล้ว ทำให้ทางผู้สร้างต้องหานักแสดงแบทแมนคนใหม่ และคนนั้นก็คือโรเบิร์ต แพททินสัน การมารับช่วงต่อในครั้งนี้ทำให้หลายคนจับตาว่าแบทแมนจะกลับมาสยายปีกความยิ่งใหญ่ได้เหมือนในยุคของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่นำแสดงโดย คริสเตียน เบล หรือไม่?

 

5.รวมตัวละครระดับตำนานของ Batman

เป็นการกลับมาของตัวร้ายของแบทแมนที่เคยโด่งดังมาในฉบับคอมิกส์ ทั้ง อ็อซ หรือที่รู้จักกันในนามแฝงว่า มนุษย์เพนกวิน รับบทโดย คอลิน ฟาร์เรลล์, คาร์มิน ฟัลโคนี เจ้าพ่อแก๊งอาชญากรใต้ดิน รับบทโดย จอห์น เทอร์ทูร์โร ,นักฆ่าโรคจิตผู้โหดเหี้ยมซึ่งรู้จักกันเพียงในชื่อเดอะริดเลอร์ รับบทโดย พอล ดาโน และ แคทวูแมน นางแมวสุดแซ่บที่กลับมาอีกครั้งโดยการรับบทของ โซอี้ คราวิตซ์

เดอะ แบทแมน

  • 03 March 2022
  • Adventure / แอ็คชัน / ระทึกขวัญ /
  • 178 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง