REVIEW : Tomorrowland แดนแห่งความเป็นไปได้!

Tomorrowland
แดนแห่งความเป็นไปได้!
BY FEEDMYBRAIN

 

 

เมื่อดิสนีย์ สตูดิโอของคนช่างฝันจับมือกับผู้กำกับหัวคิดเยี่ยมอย่าง แบรด เบิร์ด ผู้ให้กำเนิด The Incredibles (2004) และ Ratatouille (2007) ร่วมกันผลิตอีกหนึ่งผลงานคุณภาพระดับมาตรฐานที่แฝงด้วยปรัชญาทางความคิดคลุกเคล้ากับเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ ถ่ายทอดผ่านภาพที่ละเมียดละไม และโดดเด่นด้วยเหล่าตัวละครผู้ทัดทานกับกระแสเวลา เพื่อมุ่งหน้าไปสู่แดนอนาคตที่น้อยคนนักจะไปถึง ยินดีต้อนรับทุกท่านร่วมผจญภัยไปในดินแดนสุดวิเศษอย่าง Tomorrowland สถานที่ซึ่งไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้!

Tomorrowland ผจญแดนอนาคต ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงกันโดยบังเอิญของอัจฉริยะ 2 คนที่เกิดต่างที่ต่างเวลา ทว่าทั้งคู่ต่างมีเส้นทางและมีความคิดแบบเดียวกัน เมื่อ เคย์ซี่ นิวตัน (บริทท์ โรเบิร์ตสัน) เด็กสาววัยรุ่นอัจฉริยะได้รับเข็มกลัดปริศนาและทันทีที่เธอสัมผัส สถานที่สุดอัศจรรย์แห่งหนึ่งก็จะปรากฏขึ้น! เพื่อไขปริศนาและเดินทางไปยังโลกอันวิจิตรแห่งอนาคต เธอจึงออกตามหา แฟรงค์ วอล์คเกอร์ (จอร์จ คลูนีย์) ชายเพียงคนเดียวผู้กุมความลับสู่โลกใหม่ ทว่าระหว่างทางเธอกลับถูกตามล่าและหมายหัวจากศัตรูผู้ซึ่งต้องการให้ดินแดนนี้เป็น “ปริศนา” ไปตลอดกาล    

 

 

“เพราะว่าจินตนการสำคัญกว่าความรู้” – อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

 

จากวิสัยทัศน์ของ วอล์ท ดิสนีย์ เกี่ยวกับดินแดนอนาคตที่ซึ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ สู่การสร้างสรรค์ที่รับเอาแนวคิดมาสานต่อ ต้องบอกเลยว่า Tomorrowland อัดแน่นด้วยความเป็น “ดิสนีย์” อยู่เต็มตัว ทั้งในแง่ของความคิดในการผลิตงาน หรือพลังทัศนคติทางด้านบวกที่เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาโลกและสังคมปัจจุบันสู่ “โลกอนาคต” ที่ทุกคนต่างเฝ้าหวังถึง และแนวทางในการกำกับนั้น แบรด เบิร์ด เลือกที่จะค่อยๆเผย “ภาพ” ของโลกอนาคตออกมาทีละน้อยผ่านการเดินทางและการเปลี่ยนแปลงของตัวละครหลักในเรื่อง หยอดเป็นน้ำจิ้มให้เรากระหายและอยากร่วมค้นหาไปต่อ จนกระทั่งเมื่อ “คำตอบ” ปรากฏออกมา ทำให้เราชะงักและปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับ “ความจริง” ที่เราเคยรับรู้มาตลอดด้วย

อีกอย่างที่โดดเด่นใน Tomorrowland คือการนำเอาบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ หรือสถานที่จริงมามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างเนื้อเรื่องให้แข็งแกร่งและมีพลังมากยิ่งขึ้น อย่างการนำเอา โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ไม่ยอมแพ้ ผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆที่กลายเป็นประโยชน์ต่อปัจจุบันชนอย่างมหาศาล หรือ หอไอเฟล สัญลักษณ์สำคัญของปารีส ทว่าในอดีตนั้น กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรผู้สร้าง กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากการออกแบบที่ล้ำยุคผิดแผกจากสมัยนิยม ซึ่งการพลิกให้ “ผลลัพธ์” ที่ได้จากการกล้าลงมือทำและความฝันเฟื่องมามีบทบาทสำคัญกับเรื่อง ยิ่งตอกย้ำแนวคิดของวอล์ท ดิสนีย์และคอนเซ็ปต์สำคัญของ “โลกอนาคต” ที่ดิสนีย์ตั้งเป้าและหมายพุ่งไปได้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยลูกเล่นสุดตระการตาและความสนุกตลอดทางที่ผสมผสานคอยสร้างสีสันให้กับเรื่องด้วย

 

 

- ตัวละครแต่ละตัวช่างมีเสน่ห์ สามารถสร้างความสนุก ตื่นเต้น และเรียกเสียงฮาได้ในคนเดียว -

 

ทางด้านการแสดง เราติดใจและชื่นชอบตัวละคร เคย์ซี่ นิวตัน เป็นพิเศษ ซึ่งรับบทโดย บริทท์ โรเบิร์ตสัน นักแสดงดาวรุ่งจาก The Longest Ride (2015) ด้วยบุคลิกและลักษณะเด่นของตัวละครที่ทั้งมั่นใจและมองโลกในแง่ดี พร้อมกับ “ความไม่ยอมแพ้” อันนำไปสู่ประเด็นหลักของเรื่อง โรเบิร์ตสันสามารถแสดงได้อย่างมีเสน่ห์ ถ่ายทอดความตลก น่ารัก สดใสร่าเริง รวมเอาไว้อยู่ในตัวละครเพียงตัวเดียวได้เป็นอย่างดี และเมื่อต้องมาปะทะกับ แฟรงค์ วอล์กเกอร์ ชายนักประดิษฐ์วัยกลางคน รับบทโดย จอร์จ คลูนีย์ ยิ่งทำให้ซีนน่าดูมากขึ้น และสนุกมากขึ้นด้วย ซึ่งคลูนีย์สามารถแสดงความเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากทีเดียว

อีกหนึ่งตัวละครที่จัดจ้านและเป็นรสชาติสำคัญสำหรับหนังเรื่องนี้เลยคือ อธีน่า เด็กสาวตัวน้อยผู้คัดเลือกคนสู่แดนอนาคต รับบทโดย ราฟฟี่ แคสสิดี้ วัย 13 ปีที่สามารถแสดงฉากบู๊ได้ห้ำหั่นและตื่นเต้นปนขำได้พอๆกับนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่นๆ รวมไปถึงตัวละครเล็กน้อยแต่ขโมยซีนได้อยู่หลายฉากอย่างเหล่าหุ่นยนต์ที่ตามไล่ล่าฆ่าฟันแต่แฝงด้วยรอยยิ้มมุมปากสุดเซ็กซี่นั่นเอง นอกจากนั้นยังได้ ฮิวจ์ ลอรี่ แห่งซีรี่ย์ House มาร่วมสร้างความฉลาดล้ำยุคที่เหนือจินตนาการ พร้อมกับกุมชะตาปริศนาอันสำคัญของโลกปัจจุบันเอาไว้ด้วย

 

 

- งานด้านภาพทำให้ฉากแห่งโลกอนาคตช่างเปี่ยมด้วยความหวัง
และความตื่นตาตื่นใจที่รอพวกเราช่วยกัน “สร้าง” มันขึ้นมาให้เป็นจริง -

 

นอกจากบทจะเปี่ยมด้วยพลังเชิงบวกอย่างมากแล้ว ต้องขอชื่นชมงานด้านภาพและไอเดียของ Tomorrowland อย่างมาก ทั้งในแง่ของภาพที่ทีมงานสร้างสรรค์โลกอนาตคตออกมาให้เจิดจรัส วิจิตรงดงาม ตรึงเหมือนอยู่ในเทพนิยายเบาๆ (ตามสไตล์เจ้าจินตนาการอย่างดิสนีย์) และในแง่ของการสร้างอาวุธ หรือสิ่งประดิษฐ์สุดแปลกจากปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สดชื่นและมีชีวิตชีวาอย่างมากด้วย รวมไปถึงการออกแบบเสื้อผ้าและฉากหลังที่ทำให้ฉากแห่งโลกอนาคตช่างเปี่ยมด้วยความหวัง และความตื่นตาตื่นใจที่รอพวกเราช่วยกัน “สร้าง” มันขึ้นมาให้เป็นจริง และยิ่งในระบบ IMAX ด้วยแล้ว เราจะเห็นภาพชัดเจนได้อย่าง “เต็มตา” “จุใจ” สุดตัว เพราะการเพิ่มขึ้นถึง 16% ทำให้เราจะเห็นภาพแบบไม่ถูกตัดขอบบนขอบล่าง และเห็นความละเอียดประณีตของอาคารสถานที่สร้างต่างๆทั่วดินแดน ราวกับว่าท่องไปในโลกอนาคตพร้อมกับเคย์ซีเลย!

Tomorrowland ภาพยนตร์ที่สานต่อจินตนาการและแนวความคิดของวอล์ท ดิสนีย์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมกับแฝงความคิดแห่งคนช่างฝันเพื่อสร้างสรรค์ปัจจุบันสู่อนาคตได้อย่างลงตัว ถือเป็นอีกหนึ่งหนังผจญภัยไซไฟที่ใส่องค์ประกอบที่มีสีสัน แม้ตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของหนังไซไฟผจญภัยที่ครบเครื่องได้อย่างเต็มที่ ทว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นความพยายามรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจจำนวนมากเกิดขึ้นจากเหล่า “คนช่างฝัน” ก็ได้ เพราะที่นี่เราเชื่อว่า ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้!

♦ เช็ครอบและจองตั๋วได้เลยที่นี่
http://www.majorcineplex.com/movie/tomorrowland