HIGHLIGHT CONTENT

ย้อนอ่านรีวิวความมันส์ของ Spider-Man: Homecoming คืนเกรียนสู่เหย้า

  • 43,315
  • 04 พ.ย. 2020

รีวิว Spider-Man: Homecoming   คืนเกรียนสู่เหย้า (A)

 

ยินดีต้อนรับกลับสู่บ้านเก่า สำหรับ Spider-Man: Homecoming  ภาพยนตร์แยกเดี่ยวของไอ้แมงมุม ที่สิทธิ์ตัวละครยังคงเป็นของโซนี่ แต่งานสร้างงานผลิต มาร์เวล เป็นผู้ดูแล โดยได้ โทนี่ สตาร์ค หรือ ไอรอนแมน หนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่สุดแกร่งของมาร์เวล มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับภารกิจในครั้งนี้ ด้วยอารมณ์และโทนเรื่องที่แตกต่างจากหนังสไปเดอร์แมน 2 เวอร์ชั่นที่ผ่านมา รวมถึงเป็นสีสันใหม่ของหนังมาร์เวลที่เราไม่ค่อยได้พบในฮีโร่เรื่องอื่น การกลับสู่เหย้าของสไปเดอร์แมน ใน  Spider-Man: Homecoming ถือเป็นก้าวที่สำคัญของซูเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ ก้าวสำคัญของโซนี่และมาร์เวล ในการร่วมมือสร้างจักรวาลภาพยนตร์นี้ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไป

Spider-Man: Homecoming เป็นเหตุการณ์หลังจาก Captain America: Civil War ที่สไปเดอร์แมน ได้ไปร่วมเปิดตัวความมันส์มาก่อนหน้านี้ในทีมของโทนี่ สตาร์ค ชีวิตของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ( ทอม ฮอลแลนด์ )กลับสู่ชีวิตวัยรุ่นปกติ ไปโรงเรียน ตอบปัญหาวิชาการ ต่อเลโก้กับเพื่อน และ งานพรอมคืนสู่เหย้า แต่ชีวิตหลังจาก Civil War มันไม่ง่ายเลย เมื่อ ปีเตอร์พยายามพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่ สตาร์ค เห็นว่า แม้เขาจะเป็นเด็กแต่ก็สามารถต่อกรกับวายร้ายได้ เขาเลยเริ่มปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่ภารกิจเล็ก ไป จนถึงภารกิจใหญ่ที่เขาจะต้องยับยั้งวายร้ายอย่าง วัลเจอร์ (ไมเคิล คีตัน) ชายในชุดเกราะเหยี่ยวยักษ์ที่มาพร้อมกับอาวุธทรงอานุภาพในการทำลายล้าง

ในภาพยนตร์ Spider-Man สองเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ตัวละครไอ้แมงมุม ถูกเซตให้เป็นตัวละครน่าสงสาร มีความหม่น และ ธีมของหนังแอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ แตกต่างจาก Spider-Man: Homecoming ที่เน้นโทนหนังให้เป็นอารมณ์วัยรุ่นก้าวข้ามช่วงวัย มีความเป็นเด็ก เกรียน ฮา และ ความรักในวัยเรียน ชีวิตปกติเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง สไปเดอร์แมน ก็ต้องทำภารกิจเพื่อปกป้องผู้คนด้วย  ส่วนที่น่าชื่นชมในการเล่าเรื่องของมาร์เวล คือ การทำให้สไปเดอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพัฒนาการ ไม่ใช่แค่เด็กชายที่ถูกแมงมุมกัดแล้วก็มีพลังวิเศษแข็งแกร่งเกินคน แต่เขาต้องผ่านอุปสรรค การฝึกฝน และการยอมรับจากผู้คนและเหนือสิ่งอื่นใดคือ เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ อเวนเจอร์ส

สำหรับการแสดงของ ทอม ฮอลแลนด์ ในบทของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ คือการถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นเกรียน พูดมาก และเก็บความลับไว้ ด้วยวัยและคาแรคเตอร์ทำให้เขาคือสไปเดอร์แมน ที่ถอดแบบออกมาจากหนังสือการ์ตูน ความสามารถในด้านยิมนาสติกผาดโผนช่วยทำให้เราได้เห็นทักษะที่ยอดเยี่ยมของไอ้แมงมุมคนนี้  โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ กระโดดมาร่วมแจมในหนังได้อย่างพอเหมาะพอควร ไม่เยอะเหมือนกับการโหมโปรโมททั้งในตัวอย่างหนังและโปสเตอร์ ลบคำครหาที่ว่า “นี่คือหนังของไอรอนแมน หรือ สไปเดอร์แมนกันแน่? ” ในขณะที่ เมริสา โทเม่ สาวใหญ่ที่มารับบทป้าเมย์ ก็โปรยเสน่ห์โกยคะแนนจากคนดูไปได้ทุกฉากที่เธอปรากฎโฉม  ทุกคาแรคเตอร์ของ  Spider-Man: Homecoming ตั้งแต่ตัวละครหลัก และ ตัวละครสมทบ สร้างความประทับใจให้กับคนดูได้ทุกตัว

ความโดดเด่นของ  Spider-Man: Homecoming  คือการสร้างธีมให้กับตัวละครด้วย ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ซึ่งมาร์เวล ใช้เพลงธีมของ Spider-Man ฉบับการ์ตูน 1960s มาแปลงให้เป็นเพลงที่บรรเลงด้วยวงเครื่องสายให้ความเท่และความเร้าใจให้กับภารกิจของสไปดี้ด้วย ส่วนเทคนิคของเรื่องที่คนดูต้องชื่นชอบมากๆ คือ ความสามารถของชุดไอ้แมงมุม ที่ถูกอัพเกรดด้วยฝีมือของโทนี่ สตาร์ค ซ่อนลูกเล่นไว้อย่างแพรวพราว ตั้งแต่ อาวุธการปล่อยใย โดรนติดตาม GPS ผู้ช่วยส่วนตัว คล้ายระบบปฏิบัติการของชุดเกราะไอรอนแมนเลย

Spider-Man: Homecoming เป็นการกลับคืนสู่เหย้าของซูเปอร์ฮีโร่สุดเกรียน เป็นก้าวใหม่ที่แตกต่าง แฟนหนังมาร์เวลควรไปพิสูจน์ความมันส์และความฮาด้วยตาของคุณเอง ที่สำคัญคือพอหนังจบอย่าเพิ่งรีบลุก เพราะหนังยังมี 2 ฉากท้ายสุดเด็ด ที่แฟนหนังทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีหนังเรื่องไหนของมาร์เวล ปล่อยฉากทิ้งท้ายให้คนดูได้ทึ่งได้มากขนาดนี้

  

สไปเดอร์แมนโฮมคัมมิ่ง

  • 05 November 2020
  • Adventure / แอ็คชัน /
  • 133 นาที
15+