HIGHLIGHT CONTENT

Review :: Beauty and the Beast ที่สุดของตำนานดิสนีย์

  • 152,641
  • 15 มี.ค. 2017

รีวิวสดๆ จากหน้าโรง Beauty and the Beast
ที่สุดของตำนานดิสนีย์ ตื่นตาตื่นใจใน IMAX และ 4DX

 

 

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ Beauty and the Beast ผลงานไลฟ์แอ็คชั่นเรื่องล่าสุด ที่ได้เอ็มม่า วัตสัน มารับบทเจ้าหญิง พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบมิวสิคัลเต็มตัว หลังจากที่ได้ดูแล้ว ขอบอกเลยว่า นี่คือหนังดิสนีย์เวอร์ชั่นคนแสดงที่สมบูรณ์ที่สุด รวมถึงเล่าเรื่องราวถอดแบบมาจากแอนิเมชั่น และมีมุมมองเพิ่มเติมสร้างมิติให้กับตำนานโฉมงามกับเจ้าชายอสูรให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น 

 Beauty and the Beast เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเบลล์ หญิงสาวในเมืองเล็กๆของฝรั่งเศส เธอถูกคนในหมู่บ้านมองอย่างประหลาดต่างจากคนอื่นๆ เพราะว่าเธอมีนิสัยชอบเพ้อฝัน หลงใหลในการอ่านหนังสือ และชีวิตเต็มไปด้วยจินตนาการ วันหนึ่งพ่อของเบลล์กำลังเดินทางเข้าเมืองใหญ่ แต่เกิดพลัดหลงเข้าไปในปราสาทของอสูร เธอจึงต้องเข้าไปตามหาพ่อ พรหมลิขิตชักนำให้เธอมาพบกับอสูรและต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา ท่ามกลางบรรยากาศของการปรับตัว ความรักที่จะมาล้างคำสาปได้บังเกิดขึ้น 

 

 

สำหรับบทภาพยนตร์ของ Beauty and the Beast  เกือบ 90% ถอดแบบมาจากฉบับแอนิเมชั่น เล่าเรื่องในรูปแบบมิวสิคัล แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการเผยให้เห็นหลายมุมมองของตัวละคร  ปูมหลังของเบลล์ ความผูกพันระหว่างเธอกับพ่อ ทัศนคติที่เธอมีต่อโลก ในขณะที่ตัวละครอสูร ก็มีมุมให้เราได้เข้าใจชีวิตที่น่าสงสารนี้ยิ่งขึ้นไปอีก สอดแทรกเรื่องค่านิยมของสังคมที่มองว่า “ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องฉลาด แต่ควรหัดเรียนรู้ในการเป็นแม่บ้านที่ดีมากกว่า” ถึงแม้ว่าจะเพิ่มเรื่องราวเข้ามา แต่ Beauty and the Beast ก็ยังไม่ทิ้งแก่นแท้ของเรื่องที่ว่า “อย่ามองคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอก แต่จงมองให้เห็นความดีงามที่อยู่ในหัวใจ”

 

 

สำหรับการแสดงของ เอ็มม่า วัตสัน ในบทของเจ้าหญิงเบลล์ สร้างความตรึงใจให้กับคนดูตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง ไม่ใช่แค่ความสวยแต่ยังสะท้อนให้เห็นความฉลาดที่แฝงอยู่ในแววตาที่ใครหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เธอนี่แหละคือเจ้าหญิงตัวจริง’ และไม่เพียงแค่การแสดงเท่านั้นที่เราจะได้สัมผัส ในเรื่องนี้เอ็มม่า ยังโชว์เสียงร้องเพลงตลอดทั้งเรื่องให้เราได้เคลิบเคลิ้ม ตั้งแต่ซีนเปิดตัว แม้พลังเสียงจะไม่ได้ถึงขั้นนักร้องอาชีพ แต่การร้องของเอ็มม่าทำให้เราเข้าถึงจินตนาการของตัวละครได้อย่างดี 

 

 

บทเพลงของ  Beauty and the Beast  คือส่วนสำคัญที่งดงามมากที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ ความไพเราะที่เคยมีในฉบับแอนิเมชั่น เมื่อถูกขับขานใหม่อีกครั้งทำให้ตัวละครที่เคยอยู่ในจินตนาการกลับมามีชีวิต ส่วนของดนตรีประกอบที่ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ โดยปรมาจารย์ อลัน เมนเคน ผู้เคยทำให้โฉมงาม ได้รับออสก้าร์มาแล้ว กลับมาสร้างชีวิตให้กับเวอร์ชั่นนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมี เซอร์ไพรส์เสียงร้องจาก ซีลิน ดิออน นักร้องคุณภาพระดับโลกที่มาร้องเพลงแต่งใหม่ How Does A Moment Last Forever  เล่นเอาคนดูขนลุกในความทรงพลังไปตามๆกัน สำหรับงานดีไซน์เสื้อผ้าและฉาก ก็ทำออกมาได้อย่างงดงาม เก็บรายละเอียดของทุกสัดส่วนตั้งแต่บ้านเรือนในชนบทไปจนถึงประตู บันได ห้องโถงในปราสาทอสูร ที่ยามมืดมนก็ดูน่ากลัว แต่เมื่อติดไฟใต้แสงเทียนก็งดงามราวกับฝัน 

 

 

ทั้งนี้ Beauty and the Beast ยังมีความพิเศษด้วยการฉายในระบบ IMAX ให้ภาพที่เต็มตากว้างกว่าจอปกติ 26 % กลืนเราเข้าไปสู่ปราสาทเหมือนเราเป็นแขกที่ได้ร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้  เสียงเพลงขับขานกระหึ่มทุกท่วงทำนองด้วยลำโพงยักษ์ ในระบบ4DX ก็จัดเต็มเทคนิคเอฟเฟ็กต์มากมาย ทำให้เราได้สนุกเหมือนได้เล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกของดิสนีย์แลนด์เลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากเข้าสู่โลกเทพนิยายของดิสนีย์ สามารถเช็ครอบและจองตั๋วได้แล้วที่ด้านล่างนี้เลย 

 

 

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร

  • 16 March 2017
  • Adventure / ผจญภัย / แฟนตาซี /
  • 129 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง