Review : สี่เส้า อีกหนึ่งหนังรักไทยที่ห้ามพลาด #ร้องไห้หนักมาก

Review : สี่เส้า อีกหนึ่งหนังรักของไทยที่ห้ามพลาด 
#ร้องไห้หนักมาก 

 

 

เป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ได้รับกระแสตอบรับและชื่นชมจากกลุ่มนักวิจารณ์ สื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง สี่เส้า ภาพยนตร์จากค่าย NGR ซึ่งเป็นหนังรักโรแมนติก-ดราม่าแบบไทยๆ ที่ถ่ายทอดความหมายของความรักให้หลายคนได้เข้าใจมันมากยิ่งขึ้น 

สี่เส้า เป็นเรื่องราวความรักของกมล (เต้ย พงศกร) ชายหนุ่มจากเมืองกรุงที่ งขึ้นไปหาอาฉิง ( ฟาง ธนันต์ธรญ์ ) แฟนสาวสมัยเรียนอยู่ด้วยกันที่แม่ฟ้าหลวง เพื่อขอเธอแต่งงาน ในขณะเดียวกัน  อาเว่ย (เวฟ คูเปย จง) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอาฉิงกำลังถูกจับคลุมถุงชนกับ เสี่ยวผิง (เวนดี้ หว่อง) เพื่อนในสมัยเด็ก ซึ่งๆลึกแล้วอาเว่ย ไม่ได้รักเสี่ยวผิง แต่กลับรักอาฉิงต่างหาก เรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักจึงเริ่มต้นขึ้น

 

 

ในด้านเนื้อเรื่อง สี่เส้า เรียกได้ว่าอัดแน่นเต็มไปด้วยความดราม่าทั้งเรื่อง แต่ไม่ใช่ว่าจะชวนให้เราฟูมฟายอย่างเดียว เพราะหนังแฝงแง่คิดในเรื่องบทเรียนความรักว่า ความรักแท้จริงเป็นอย่างไร? ซึ่งหนังได้สะท้อนออกมาในแง่ของรักแท้จริงย่อมไม่เห็นแก่ตัว ไม่ยึดติดและอยากครอบครองแต่ฝ่ายเดียว รวมถึงอธิบายความหมายของการมีชีวิตคู่ได้อย่างดีเยี่ยม การแต่งงานไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ ฉากจบที่หลายคนชมแล้วต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำได้ดีมาก แม้จะเป็นการเล่าเรื่องแบบราบเรียบตรงไปตรงมา แต่มันช่วยทำให้คนดูเข้าใจอะไรง่ายๆมากขึ้น โดยไม่ต้องขบคิดให้มากความแต่อย่างใด ฝีมือนักแสดงที่สอบผ่านเกินร้อย ทำให้เราอินมากขึ้น 

 

 

สี่เส้า มีฉากหลังเป็นบรรยากาศส่วนใหญ่ในจังหวัดเชียงรายและ เชียงใหม่ ใช้โดรนถ่ายภาพมุมสูงแบบกว้างๆออกมาได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะบรรยากาศของขุนเขาแห่งดอยแม่สลอง หรือภาพสายหมอกบนผืนน้ำที่เขื่อนแม่กวง สร้างความโรแมนติกให้กับภาพยนตร์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังฉายให้คนไทย-จีนที่มาจากยูนนาน มาลงหลักปักฐานที่ภาคเหนือ พร้อมกับภาพวัฒนธรรม วิถีชีวิต โคมแดง บ้านเรือนเล็กๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ภาพของหนังเรื่องนี้ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ จุดไฮไลท์ของเรื่องคงจะหนีไม่พ้น ฉากต้นบ๊วยคู่ ที่ตระหง่านกลางหุบเขา ซึ่งต้นบ๊วยนี้เองเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของอาเว่ย ที่ถึงตอนจบคุณอาจจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว

 

 

 ยิ่งได้ดนตรีที่เฟดขึ้นตลอดทั้งเรื่องเร้าอารมณ์เข้าไปใหญ่ แถมเอาเพลงพระจันทร์แทนใจ The Moon Represents My Heart (เยว่เหลียงไต้เปี่ยวหวอเตอซิน ) มาเป็นอีกหนึ่งธีมในการเล่าเรื่องทั้งในรูปแบบรักหวานๆและแทนความรักแบบดราม่า ทำให้เสียงเพลงนี้ก้องอยู่ในหัวใจหลังจากที่ภาพยนตร์จบลง 

สี่เส้า ถือได้ว่าเป็นหนังรักที่ดีเรื่องหนึ่ง ช่วยทำให้เราเข้าใจหลายๆอย่างมากขึ้น เป็นหนังที่ไม่ยุ่งยากในการดู บอกตรงๆ พูดตรงๆ เรียบง่ายแต่กินใจ แค่ภาพสวยๆของวิวที่อยู่ในหนังก็คุ้มแล้ว เชียรให้ช่วยสนับสนุนหนังไทยดีๆ 

 

 

 

เช็คข้อมูลและรอบภาพยนตร์ที่ http://www.majorcineplex.com/movie/love-is