HIGHLIGHT CONTENT

อิโรติกสุดสวาท 5 หนังติดเรทเฉพาะผู้ใหญ่ ตีแผ่ราคะสีเทาในจิตใจ

  • 548,167
  • 16 ม.ค. 2018

อิโรติกสุดสวาท 5 หนังติดเรทเฉพาะผู้ใหญ่
ตีแผ่ราคะสีเทาในจิตใจ

เจมี ดอร์แนนและดาโกต้า จอห์นสัน กลับมารับบท คริสเตียน เกรย์ และแอนัสตาเซีย สตีลอีกครั้ง ใน Fifty Shades Freed ฟิฟตี้ เชดส์ ฟรีด ภาคที่สามของภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือที่ขายดีถล่มทลายไปทั่วโลก “Fifty Shades”

ภาคใหม่นี้ จะต่อยอดจากเหตุการณ์ที่เริ่มต้นและดำเนินไปในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ปี 2015 และ 2017 โดยภาพยนตร์ Fifty Shades of Grey และ Fifty Shades Darker ทำรายได้รวมกันทั่วไปเกือบ 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Fifty Shades Freed พร้อมสร้างความเร่าร้อนในโรงภาพยนตร์รับวาเลนไทน์ ปี 2018

 

 

 

ก่อนที่เราจะไปร่วมค้นหาความต้องการทางอารมณ์ของพวกเขาเราได้จัดอันดับ 5 หนังติดเรทที่เคยตีแผ่ความต้องการในใจมนุษย์มาให้ได้ร่วมอุ่นเครื่องกัน 

 

จันดารา : จัน ดารา เป็นชื่อของตัวละครนำของเรื่องที่ชีวิตเวียนวนอยู่กับผลกรรมแห่งกามตั้งแต่เกิด เมื่อชื่อของจัน ตีตราด้วยความเกลียด จัน  วิสนันท์   เคราะห์กรรมซัดใหัวันที่จันเกิดแม่ต้องตายและคุณหลวง(พ่อ)ก็ไม่ได้รักเขาเพราะแท้จริงแล้วเค้าไม่ใช่ลูกของคุณหลวง  ความจงเกลียดจงชังจากคุณหลวงส่งถึงจันตั้งแต่เด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่และผลทั้งหลายที่จันเคยได้รับก็คืนสนองคุณหลวงในปลายชีวิตเช่นกัน บ้านวิสนันท์ บ้านหลังใหญ่ที่เป็นฉากหลังของเรื่องราวเกือบทั้งหมด ภายในบ้านที่ไม่ได้มีเพียงพ่อแม่ลูกแต่ยังอีกหลายชีวิตในรั้วบ้านหลังนั้นที่ทุกตัวละครต่างไม่หนีพ้นในเรื่องของกามอารมณ์ ถ้าจะบอกว่าเป็นบ้านแห่งการเสพสังวาสก็ไม่ผิด

ความคลาสสิคของเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากน้ำแข็งลูบหลังอันลือเลื่อง แต่เป็นการเล่าเรื่องเพศ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนมักเลี่ยงที่จะพูดถึงเพราะมันคือเรื่องสงวนไว้ในที่ลับเท่านั้น  การเล่าเรื่องของจันดาราผ่านรูปแบบหนังสือให้คนสมัยก่อน(2509)ได้อ่านนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะจะเล่าอย่างไรให้เป็นศิลปะของวรรณกรรม นอกจากนี้ยังแฝงปรัชญาพุทธศาสนา (กรรมและกาม) จิตใจมนุษย์ หรือแม้แต่จะเล่าเรื่องผ่านภาพยนตร์ก็ต้องคิดฉากไม่ให้วาบหวิวชวนเสียวเกินไปเพราะคนไทยยังมองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และไม่เหมาะสมที่จะต้องมาฉายกันให้เห็นบนจอยักษ์ที่มีคนนับร้อยมานั่งชมเห็นเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ความจริงแล้วเรื่องเพศก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับคนมาตั้งแต่เกิด

 

 

A Frozen Flower :  ภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ออกฉายในปี 2008 ว่าด้วยอีโรติอิงประวัติศาสตร์ที่ได้ สามนักแสดงนำมาร่วมถ่ายทอดความเผ็ดร้อน Jo In-sung, Joo Jin-mo และ Song Ji-hyo สร้างบนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ ในสมัยกษัตริย์ กงนิม ที่ 31 แห่งราชวงศ์โครยอ A Frozen Flower  ภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ออกฉายในปี 2008 ว่าด้วยอีโรติอิงประวัติศาสตร์ที่ได้ สามนักแสดงนำมาร่วมถ่ายทอดความเผ็ดร้อน Jo In-sung, Joo Jin-mo และ Song Ji-hyo สร้างบนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ ในสมัยกษัตริย์ กงนิม ที่ 31 แห่งราชวงศ์โครยอ โดยในเรื่องไม่ใช่เฉพาะความสัมพันธ์แบบชายหญิง เท่านั้น แต่ยังมีการนำความสัมพันธ์ของชายชายมาเล่าบนแผ่นฟิล์มาอย่างโจ่งแจ้งด้วย กลายเป็นความรักสามเศร้าระหว่าง ราชาที่ไม่อาจมีลูกได้ เพราะไม่ได้รักมเหสี จึงให้องครักษ์หนุ่มไปร่วมรักแทนจนกลายเป็นความสัมพันธ์ทางใจ ในขณะที่พระราชาก็แอบเจ็บปวดเพราะตัวเองก็รัก องครักษ์เช่นเดียวกัน โดยใหนังเรื่องนี้มีการใช้ฉากเพศอย่างไม่ยั้ง สอดแทรกเรื่องราวสังคมเกาหลีและชนชั้นไว้ด้วย 

 


ชั่วฟ้าดินสลาย : ยุพดี หนึ่งในตัวละครเอกในชั่วฟ้าดินสลาย บทประพันธ์ของมาลัย ชูพินิจ (เรียมเอง) หญิงสาวผู้พลิกชะตาชีวิตของตนเองและผู้ชายอีก 2 คนได้รับการถ่ายทอดผ่านงานกำกับภาพยนตร์ของหม่อมน้อยเมื่อ3ปีที่ผ่านมา คนดูหนังหลายคนหรือคนที่เคยอ่านหลายคนอาจจะตั้งคำถามหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวละครเอกตัวนี้ 

ยุพดี แปลว่า หญิงรุ่นสาว ตามพจนานุกรมไทยและในบทประพันธ์เธอคือหญิงงามในวัย 20ปีที่ต้องแต่งงานกับพะโป้ชายชราคราวปู่อายุประมาณ 50 ปีตามที่ระบุในหนังสือของเรียมเอง ยุพดีเกิดในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ เติบโตอย่างโดดเดี่ยวในรั้วโรงเรียนชีสอนศาสนาและประสบกับชีวิตแต่งงานที่ไม่เป็นอย่างที่ใจหวัง สิ่งที่บอกมานี้ไม่ใช่เพียงแค่ระบุตื้นลึกหนาบางของผู้หญิงคนนี้แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของยุพดีที่ต้องการความรัก ความอบอุ่นจากสิ่งที่เรียกว่าบ้านหรือครอบครัว ความมั่นคงของชีวิต ประกอบกับการต้องการหลีกหนีจากสังคมพระนครที่วุ่นวายสิ่งเดียวที่หลุดจากโลกภายนอกได้คือการอ่านหนังสือและการฟังเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่เธอทำเป็นประจำ เธอหลีกหนีชีวิตในกรุงไปแต่งงานกับพะโป้ เศรษฐีใหญ่รุ่นบิดาที่หัวเมืองเหนือ ก่อนที่จะแอบลักลอบมีชู้กับส่างหม่อง ลูกชายบุญธรรมของพะโป้ ก่อนที่จะถูกพิพากษาให้เอากุญแจมือมาล่ามทั้งคู่ไว้ชั่วฟ้าดินสลาย 

 

in the room  : หนังจะพาผู้ชมย้อนกลับไปเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ของมัน ผ่านเหตุการณ์ 6 เหตุการณ์ 6 เรื่องรักของคน 6 สัญชาติ สิงคโปร์ , ไทย , ญี่ปุ่น , เกาหลี , ฮ่องกง , อังกฤษ ในห้องพักหมายเลข 27 ซึ่งเกิดขึ้นต่างยุคต่างสมัยกัน แต่เหตุการณ์เหล่านั้น มันกลับสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคมของสิงคโปร์ได้อย่างแหลมคม เอริก คู พาผู้ชมเดินทางกลับไปยังยุค 40 สมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครองสิงคโปร์ ก่อนจะข้ามไปยังยุค 60 อันเป็นยุคสร้างเนื้อสร้างตัวของประเทศ จากนั้นก็สำรวจความบ้าคลั่งของยุค 70 ไล่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนับรวม 7 ทศวรรษ ตัวละครที่ปรากฏอยู่ใน In the Room นั้นเป็นคนหลายชาติหลายภาษา แต่จุดร่วมหนึ่งเดียวของพวกเขาก็คือ พวกเขาเข้ามาพักที่ Hotel Singapura เพื่อ “ร่วมรัก” มันเป็นทั้งการร่วมรักที่เร่าร้อน, เร้นลับ, หฤหรรษ์, เศร้าสร้อย เป็นภาพบันทึกของความผิดหวัง และความทรงจำที่ขาดห้วง

แม้ภายนอก In the Room จะเป็นหนังที่ขายความอีโรติก (แบบราชาหนังโป๊ ซัลแมน คิง) แต่เนื้อในของมันนั้น พูดถึงรักที่ไม่สมหวัง และพูดถึงประวัติศาสตร์ร่วมของคนหลายเชื้อชาติ ต่อประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ In the Room ออกฉายในหลายเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ชมรวมถึงนักวิจารณ์ แต่กลับมีปัญหากับคณะกรรมการเซ็นเซอร์ของสิงคโปร์ หนังได้เข้าฉายในเทศกาล แต่กลับถูกแบนเมื่อต้องเข้าฉายในวงกว้าง จนทำให้ เอริก คู ต้องตัดหนังอีกเวอร์ชั่น เพื่อให้หนังได้เรท R21 

 

Fifty Shades of Grey : ฟิฟตี้เชดส์ออฟเกรย์ สร้างจากนวนิยายแนวอีโรติก โรมานซ์ขายดีของ อี แอล เจมส์ ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง “แอนาตาเซีย สตีล” นักศึกษาสาวปีสุดท้าย เอกวรรณคดีอังกฤษ และมหาเศรษฐี นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จวัย 27 ปี “คริสเตียน เกรย์” ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากการสัมภาษณ์เพียง 10 นาที กลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่จะเผยทุกความปรารถนาที่ซ่อนภายในตัวให้ลุกโชนออกมา และเปลี่ยนแปลงทุกโมเลกุลในร่างกายให้ร้อนระอุขึ้นด้วยรสนิยมแบบ “เฉพาะตัว” อย่างที่คาดไม่ถึง!

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง