ก่อนจะไปรู้จัก PAN ยินดีต้อนรับสู่เนเวอร์แลนด์...นี่ไม่ใช่ดินแดนที่คุณเคยรู้จัก

ก่อนจะไปรู้จัก PAN ยินดีต้อนรับสู่เนเวอร์แลนด์
...นี่ไม่ใช่ดินแดนที่คุณเคยรู้จัก...

 

 

 

ฉันจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งไม่มีวันเติบโต
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่คุณเคยได้ยินมาก่อน… 
บางครั้ง เพื่อเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเรื่องราวจบลงอย่างไร เราก็ต้องรู้เสียก่อนว่ามันเริ่มต้นอย่างไร

 

เรือยุคศตวรรษที่ 18 ยาว 100 ฟุตที่เดินเรือโดยเหล่าโจรสลัดเหินผ่านท้องฟ้ากรุงลอนดอนยามค่ำคืน และถูกไล่ล่ากระหน่ำยิงใส่โดยเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอังกฤษยุคสงครามโลกครั้งที่สอง... นักเลงโตรายหนึ่งต้องมาขุดเหมืองหาผงวิเศษอันมีค่าแต่ก็อยากหาทางหลบหนีจากโจรสลัดผู้ไร้ยางอายที่แสวงหาความเป็นอมตะ… นักรบพื้นเมืองผู้เปี่ยมพลังคอยปกป้องดินแดนเทพธิดาซึ่งเป็นผลึกโปร่งใสและถูกเก็บเป็นความลับ...และที่ใจกลางของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็มีเด็กกำพร้าผู้ซุกซนที่ออกตามหาแม่ แล้วเขาก็ได้ค้นพบมรดกตกทอดที่แท้จริงและโชคชะตาของตนเอง ในฐานะเด็กชายที่บินได้

 

 

ทั้งหมดนี้และอีกมากมายรวมอยู่ในภาพยนตร์ผจญภัยสำหรับครอบครัวที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากฝีมือของผู้กำกับ โจ ไรท์ “Pan” ถึงแม้ว่าตัวละครนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมากว่าศตวรรษแล้ว ไรท์กล่าวว่า “นี่คือปีเตอร์แพนสำหรับปี 2015เป็นการนำเรื่องราวที่เราทุกคนรู้จักและชื่นชอบมาเล่าผ่านมุมมองใหม่ทั้งหมด เป็นเรื่องราวความเป็นมาของปีเตอร์และการเดินทางของวีรบุรุษคลาสสิกในโลกอันยิ่งใหญ่ งดงาม และน่าตื่นเต้น”

เรื่องเล่าคลาสสิกของ เจ เอ็ม แบร์รี เป็นแรงบันดาลใจหลักให้เรื่องนี้ ไรท์กล่าวว่าเขาเปิดรับ “ความแปลกประหลาด ในตัวเรื่อง หนังสือเล่มนี้แปลกมากครับ เป็นหนังสือที่ไม่ประเมินสติปัญญาของเด็กต่ำเกินไป ไม่ได้มี ‘คนดี’ หรือ ‘คนเลว’ ทุกคนล้วนมีข้อบกพร่อง แม้กระทั่งปีเตอร์ก็ตาม ช่วงเวลาเหล่านั้นบ่มเพาะเด็กน้อยให้เกิดคำถามซึ่งเขาจะใช้เวลาหาคำตอบตลอดหลายปีต่อมา “ในตอนนั้นผมคอยถามพ่ออยู่เรื่อยเลยว่า ‘ปีเตอร์ไปเนเวอร์แลนด์ได้ยังไงครับ’‘ทำไมเขาถึงบินได้’‘เขากับฮุคพบกันครั้งแรกได้ยังไง และทำไมพวกเขาถึงเกลียดกันนัก’ ผมอ่านหนังสือฉบับดั้งเดิมเพื่อค้นหาคำตอบ แต่ก็เจอแค่คำบอกใบ้ ผมคิดเสมอว่าคงจะดีถ้าได้ทำหนังที่บอกเล่าเรื่องราวที่หมด และตอบคำถามอย่างน้อยบางส่วนจากที่ผมคิดในสมัยนั้น”

 

 

เรื่องราวที่ฟุคส์แต่งขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยผ่านการเล่ามาก่อน ว่าด้วยการที่เด็กกำพร้าชื่อปีเตอร์กลายมาเป็นฮีโร่ซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือในชื่อปีเตอร์ แพน หญิงสาวที่ชื่อแมรี รับบทโดยอแมนดา ไซย์เฟรด ฝากลูกชายซึ่งยังเป็นทารกเอาไว้หน้าประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีชื่อว่าบ้านเด็กกำพร้าชายแลมเบ็ธ พร้อมกับฝากจดหมายไว้ จูบลา และให้เครื่องลางรูปขลุ่ยแพนห้อยไว้ที่คอ เรื่องราวกล่าวถึงปีเตอร์ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 12 ปีและยังคงฝันว่าแม่จะกลับมารับ

บุคลิกจอมป่วนของแพนซึ่งนักอ่านต่างรู้กันดีนั้นปรากฏให้เห็นในตัวหนุ่มน้อยหัวขบถซึ่งสนุกกับการที่ตัวเขาและเพื่อนรักอย่างนิบส์ได้ชิงไหวชิงพริบกับคุณแม่บาร์นาบาส ผู้อำนวยการจอมบงการของสถานเลี้ยงเด็ก แต่สิ่งที่เด็กชายทั้งสองได้รู้ในไม่ช้าคือความโลภของคุณแม่บาร์นาบาสไม่ได้หยุดอยู่แค่ของปันส่วนสำหรับบ้านเด็กกำพร้าในช่วงสงคราม ด้วยการที่เธอรู้เห็นเป็นใจและเป็นช่วงที่ฝ่ายเยอรมันมาทิ้งระเบิด ปีเตอร์และเด็กชายอีกหลายคนได้ถูกโฉบตัวจากเตียงนอนโดยกลุ่มโจรสลัดและลักพาตัวไปยังสถานที่ที่พิเศษอันมีชื่อว่า...เนเวอร์แลนด์

 

 

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เนเวอร์แลนด์อย่างที่เราทุกคนรู้จักกัน ภายใต้การปกครองของแบล็คเบียร์ด ปีเตอร์และเพื่อนเด็กกำพร้า รวมถึงเด็กอีกนับพันๆ คน ถูกโยนลงไปในหลุมดินขนาดใหญ่และถูกบังคับให้ทำงานไม่หยุดหย่อนเพื่อขุดเอาสุดยอดอัญมณีหายาก พิกซัม ซึ่งใช้สกัดเอาผงวิเศษพิกซีออกมา แต่เมื่อปีเตอร์ได้เผชิญหน้ากับแบล็คเบียร์ด เขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีพรสวรรค์อันไม่ธรรมดา และการณ์ก็ปรากฏชัดว่าผู้ปกครองที่ประสงค์ร้ายรายนี้อาจต้องกลัวปีเตอร์มากกว่าด้วยซ้ำ ในเมื่อโชคชะตาของแบล็คเบียร์ดรวมถึงโชคชะตาของเนเวอร์แลนด์เองอาจตกอยู่ในมือของเด็กหนุ่มผู้นี้

“จินตนาการอันกว้างไกล ความละเอียดถี่ถ้วน และความใส่ใจในรายละเอียดซึ่งโจมีให้โครงการนี้ทำให้ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ทำงานกับเขาครับ” ผู้อำนวยการสร้างพอล เว็บสเตอร์กล่าว “Pan” เป็นการทำงานร่วมกันของทั้งสองเป็นครั้งที่สี่แล้ว และนับตั้งแต่เริ่มต้น เขากล่าวว่า “โจมองเห็นตัวเองอยู่ในตัวละครเด็กชายผู้โดดเดี่ยวแต่กล้าหาญนี้ ทันทีที่เขาอ่านบท มันตรงกับความรู้สึกเขาพอดี ทำให้เขาอยากมีส่วนร่วมกับทุกอย่างที่ทำได้”