รู้จัก ‘ขุนแผน’ กับตำนานแห่งดาบฟ้าฟื้น แท้จริงต้นฉบับวรรณคดีไทยเป็นยังไง?

ขุนช้าง ขุนแผน เป็นวรรณคดีไทยที่สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องของเรื่องเล่าในยุคกรุงศรีอยุธยา เนื้อเรื่องสนุก มีอภินิหารและรายละเอียดแตกต่างกันออกไป มีผู้จำต่อๆกันมาเล่าเพื่อความบันเทิง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่2 ได้มีการโปรดเกล้าฯให้เหล่ากวีร่วมกันแต่งเรียบเรียงใหม่ รวมถึงพระองค์ได้ทรงพระราชนิพนธ์บางส่วนด้วย กลายเป็นวรรณคดีคำกลอนที่มีความไพเราะเป็นอย่างมาก โดยวรรณคดีสโมสรได้ยกย่องให้ขุนช้างขุนแผนเป็นยอดของหนังสือกลอนเสภาเลยทีเดียว

ตามต้นฉบับนั้น ขุนแผน มีชื่อเดิมว่า พลายแก้ว เกิดที่สุพรรณบุรี พ่อขุนแผนชื่อขุนไกรพลพ่ายได้ทำความผิด จึงโดนสมเด็จพระพันวษาสั่งประหารชีวิต แม่ของขุนแผนจึงพาหนีมาอยู่บ้านญาติที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้บวชเรียนจนสำเร็จวิชา ต่อมาได้กลับมาที่สุพรรณบุรี ได้พบกับขุนช้างและนางพิม เพื่อนสมัยเด็ก พลายแก้วหลงรักนางพิม จึงได้สึกออกมาจากการเป็นเณร และได้นางพิมเป็นภรรยา ต่อมาพลายแก้วได้รับแต่งตั้งให้นำทหารไปตีเมืองเชียงทอง เชียงอินทร์ หลังการรบสำเร็จได้รับการปูนบำเหน็จเป็น ขุนแผนแสนสะท้าน จนสุดท้ายได้เลื่อนขั้นเป็นพระยากาญจนบุรี 

สำหรับความสามารถของขุนแผน ว่ากันว่ามีความเชี่ยวชาญในการรบ มีเมตตามหานิยมใครเห็นก็หลงรัก ชื่นชมในเสน่ห์ มีดาบประจำกายชื่อว่าดาบฟ้าฟื้น โดยได้มีบทกลอนกล่าวถึงความยากในการสร้างดาบฟื้นฟื้นระบุว่า 

 

"...จะจัดแจงตีดาบไว้ปราบศึก     ตรองตรึกหาเหล็กไว้หนักหนา
ได้เสร็จสมอารมณ์ตามตำรา      ท่านวางไว้ในมหาศาสตราคม

เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ        ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม       เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร

หอกสัมฤทธิ์กฤชทองแดงพระแสงหัก       เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด           เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้

เอาเหล็กไหลพร้อมเสร็จหล่อบ่อพระแสง      เหล็กกำแพงเหล็กน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่
ทองคำสัมฤทธิ์นากอแจ      เงินที่แท้ชาติเหล็งทองแดงดง

เอามาสุมคุมควบเข้าเป็นแท่ง     เผาให้แดงตีแผ่แช่ยาผง
ไว้สามวันซัดเหล็กนั้นเล็กลง    ยังคงแต่พองามตามตำรา

ซัดเหล็กครบเสร็จถึงเจ็ดครั้ง   พอกระทั่งฤกษ์เข้าเสาร์สิบห้า
ก็ตัดไม้ปลูกศาลขึ้นเพียงตา  แล้วจัดหาสารพัดเครื่องบัตรพลี..."