HIGHLIGHT CONTENT

ข้อมูลภาพยนตร์ Non-stop

  • 9,000
  • 11 ก.พ. 2014

ข้อมูลภาพยนตร์ Non-stop

ชื่อภาพยนตร์ NON STOP
ชื่อไทย เที่ยวบินระทึก ยึดเหนือฟ้า
วันที่เข้าฉาย 13 มีนาคม 2557
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์)
เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง นักแสดงรางวัลออสการ์ เลียม นีสัน (จากภาพยนตร์ Taken และ Unknown ) นำแสดงเป็น บิลล์ มาร์ค เจ้าหน้าที่ทางอากาศ หรือ แอร์มาร์แชล ที่ต้องกระโจนสู่การต่อสู่อย่างดุเดือดเหนือเวหา กว่า 40,000 ฟุตระหว่างเปลี่ยนเครื่องจากนิวยอร์คไปลอนดอน มาร์คได้รับข้อความข่มขู่ ให้ทางสายการบิน โอนเงินจำนวน 150 ล้านดอลล่าร์ เข้าบัญชีของมัน ไม่อย่างนั้นผู้ก่อการร้ายขู่จะฆ่าผู้โดยสารบนเครื่องทุกๆ 20 นาที บิลล์จึงต้องออกโรงสืบสวนให้ได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ พร้อมกับ ปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย ด้วยแรงขับดันลึกๆ ของมาร์คผลักดันให้เขาแสดงความกล้าหาญออกมา เขาจึงกลายเป็นผู้ที่ได้รับ มอบหมายพิเศษให้มาดูงานบนออฟฟิศลอยฟ้า ซึ่งวันนี้มีการเดิมพันที่ค่อนข้างเสี่ยงเมื่อการเปลี่ยน เที่ยวบินธรรมดากลายเป็นวันที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของมาร์ค ผู้คนในเครื่องบินที่รายล้อมมีเพียงไม่กี่คนที่เขาเชื่อว่าไว้ใจได้ นั่นรวมทั้งผู้โดยสารที่ติดตามเขา Jen Summers (เจน ซัมเมอร์ รับบทโดย จูเลี่ยนแอน มัวร์ JULIANNE MOORE เจ้าของรางวัล Golden Globe Award winner จากภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games: Mockingjay ภาค 1 และ 2) มาร์คต้องใช้ไหวพริบเพื่อตามหาฆาตกรบนเครื่องบิน มันเหมือนกับการเล่นเกมส์แมวจับหนู ท่ามกลางผู้โดยสารนับร้อยที่ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ภาพยนตร์ระทึกขวัญของนีสันเรื่องนี้ได้ผู้กำกับภาพยนตร์ Unknown คือ JAUME COLLET -SERRA (โจว์เมย์ โคเล็ท เซอร่า ) และ JOEL SILVER (โจเอล ซิลเวอร์ ; Unknown, The Matrix series,Die Hard) ที่ผลิตภาพยนตร์ควบคู่ไปกับ ANDREW RONA ( แอนดรู โรน่า ; Unknown, Project X,upcoming The Gunman) และ ALEX HEINEMAN (เอล็ค ไฮแมน ; Project X) ทีมผู้สร้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คนเขียนบทอย่าง JOHN W. RICHARDSON (จอห์น ดับบลิว ริชาร์ดสัน )และ CHRIS ROACH (คริส รอชท์) และ กำกับภาพโดย Richardson & Roach (ริชาร์ดสัน และ รอชท์) และ RYAN ENGLE (ไรอัน เอนเกอร์ ; upcoming Rampage) นักแสดงร่วมที่สร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ ร่วมกับนีสันและ มัวร์ อาทิ มิเชลล์ ดอกเกอรี่ (จาก ละครทีวีเรื่อง Downton Abbey ) และ LUPITA NYONG’O ( ลูปิต้า หยอง โอ จาก 12 Years a Slave) รับบท Nancy และ Gwen , NATE PARKER(จาก Arbitrage) รับบท Zack SCOOT MCNAIRY (จาก 12 Years a Slave) รับบท Tom, COREY STOLL (จาก The Bourne Legacy) รับบท Austin และ OMAR METWALLY (จาก Rendition) รับบท Dr. Nasir, นี่คือผู้โดยสารทีมาร์คยังคงสงสัยในท่าที LINUS ROACHE (จาก Batman Begins) รับบท David, นักบินของเครื่องลำนี้ และ JASON BUTLER HARNER (จาก Changeling) รับบท Kyle, ผู้ช่วยนักบิน SHEA WHIGHAM (จาก American Hustle) รับบท เจ้าหน้าที่ Marenick, หน่วยงานภาคพื้นดินที่คอยช่วยมาร์ค และ ANSON MOUNT (จากรายการโทรทัศน์ Hell on Wheels) รับบท Jack, เจ้าหน้าที่ทางอากาศอีกคนของเครื่อง 767 นี้ ทีมเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ นำโดยผู้กำกับภาพ FLAVIO LABIANO ( ฟลาวิโอ ลาเบียโน จาก Unknown, upcoming The Gunman) คนเขียนบท JIM MAY (จิม เมย์ จาก The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe, G.I. Joe: Retaliation) ออกแบบ การผลิตโดย ALEXANDER HAMMOND (เอล็กซานเดอร์ แฮมมอนด์ ) ออกแบบเครื่องแต่งกาย CATHERINE MARIE THOMAS (แคทเธอรีน มารี โทมัส จาก The Heat, Kill Bill: Vol. 1 and Vol. 2) และ เพลงประกอบภาพยนตร์ JOHN OTTMAN ( จอห์น อ็อตแมน จาก Unknown, upcoming X-Men: Days of Future Past). ภาพยนตร์นี้สร้างโดยทีมงานคุณภาพอาทิ STEVE RICHARDS (สตีฟ ริชาร์ด จาก Unknown ) HALPERN (รอน เฮลเพิร์น จาก Tinker Tailor Soldier Spy) OLIVIER COURSON (โอลิเวอร์ คอร์ สัน จาก Inside Llewyn Davis) HERBERT W. GAINS (เฮอร์เบิร์ด ดับบลิว เกนส์ จาก Watchmen) และ JEFF WADLOW (เจฟฟ์ วัดโลว์ จาก Kick-Ass 2).

เตรียมขึ้นเครื่องกับภาพยนตร์ Non Stop

Non-Stop ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นชื่อที่เหมาะสำหรับการกลับมารวมตัวกันของผู้กำกับ Jaume Collet-Serra และ Liam Neeson รวมทั้งโปรดิวส์เซอร์อย่าง Joel Silver และ Andrew Rona ที่ร่วมกันผลิตภาพยนตร์จนติดอันดับบ็อกออฟฟิศมาแล้ว และการรวมกันครั้งที่แล้วของพวกเขาทำให้เกิดแรงดึงดูดอย่างหยุดไม่ได้ที่จะต้องกลับมาทำงานด้วยกันในครั้งนี้อีก แม้ว่าคนแต่งเรื่องอย่าง Chris Roach และ John Richardson จะไม่ได้ร่วมเขียนบทสคริปต์ก็ตามแต่เนื้อเรื่องที่พวกเขาเขียนก็เร่งอดรีนาลีนของผู้ลงทุนในตลาดภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Silver และ Rona ในภาพยนตร์ พวกเราแนะนำตัว Bill Marks กับผู้ชม ด้วยอาการหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ของเขา อดีตตำรวจ NYPD ที่นั่งรถมาสนามบินเพื่อจบภาระกิจของเขากับสายงานนี้ เราจะเข้าใจ ได้ว่านี่คืองานประจำวันที่แสนน่าเบื่อของเขาและเขาก็ต้องพยามทำใจให้งานมันดูน่าทำ และยิ่งชัดขึ้นเขาคือผู้ชายที่สูญเสียศรัทธาในการมีชีวิต ในขณะที่เขากำลังจะขึ้นเครื่องบิน 767 ซึ่งน่าจะเป็นเที่ยว บินประจำ แต่สำหรับคนติดเหล้าอย่างมาร์ค เขาแค่ต้องการตีตั๋วงานนี้ไปที่ยุโรป และกลับมาอย่างเร็วที่สุดโดยไม่ต้องมีเรื่องยุ่งยากใดๆ ในระหว่างการเช็คอินขึ้นเครื่อง ตาที่พร่ามัวของมาร์ตกลับจับสังเกตุบางอย่างได้อย่างชัดเจนจนน่าประหลาดใจ มาร์คตามรอยผู้โดยสารบางคนและเขาก็เล่นหูเล่นตากับแนนซี่,แอร์โฮสเตสสาวที่เขารู้จักเป็นอย่างดี เครื่องกำลังจะออกจากลอนดอน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ ซึ่งเขาก็พร้อมที่จะอยู่แบบนี้ไปอีก 6 ชั่วโมง ขึ้นบินได้ไม่นานนัก ผู้ชมก็จะรู้ว่ามาร์คเป็นนายทหารสหรัฐ เขาได้รับข้อความที่ส่งผ่านระบบรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบิน ข้อความนั้นขู่ให้เขาโอนเงินจำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าบัญชีปริศนาไม่เช่นนั้นทุกๆ 20 นาทีจะมีผู้โดยสารบนเครื่องตายทีละคน เมื่อเขาพบว่าข้อความที่ส่งมานั้นไม่ใช่เรื่องโกหก มีคนฆาตกรบนเครื่องจริงๆ การวิ่งแข่งกับเวลาเพื่อสืบสวนเรื่อง ลึกลับนี้ก็เริ่มต้น ส่วนที่เหลือของภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้ใกล้เคียงกับเวลาจริงที่มาร์คต้องต่อสู้ เพื่อให้รู้ว่าใครที่ไว้ใจได้พนักงานบนเครื่องบินทั้งหมดและผู้โดยสารต่างสงสัยว่าทำไมมาร์คถึงพยาม จะเอาเครื่องลงจอด Silver และ Roma เป็นประธานบริษัท Silver Picture พวกเขาส่งสคริปภาพยนตร์เรื่องนี้ ให้กับทางนีสัน Neeson เพื่อเรียกความน้ำย่อย และดาราเจ้าบทบาทก็ตอบรับด้วยอาการที่ไม่ต่าง ไปจาก โปรดิวเซอร์ Silver เป็นผู้ที่ผลิตภาพยนตร์แอ็คชั่นในตำนานมาหลายเรื่อง อาทิ Die Hard และ Die Hard 2 หรือ Lethal Weapon และ The Matrix เขากล่าวว่า “เมื่อ Liam ได้อ่านบทแล้ว เขาบอกกับผมว่า ทำภาพยนตร์เรื่องนี้เลยแน่ล่ะ,เขารู้ว่านั่นมันเป็นกับดักที่ได้อ่านและเขาไม่ยอม ปล่อยผมไปแน่ๆ มันเป็นความลึกลับ เหลือเชื่อที่ต้องอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แบบนั้น และคุณไม่รู้เลย ว่า จะไว้ใจใครได้ คุณต้องออกไปสืบสอบ ทุกๆคน Silver ในฐานะคนทำภาพยนตร์ได้ยื่นข้อเสนอโอกาสในการแสดงบทที่เหลือเชื่อนี้กับ Neeson “Liam เป็นปรากฎการณ์ เขาคิดแบบดาราใหญ่ตั้งแต่เขาเริ่มสายงานนี้ และไม่นานเขาก็เป็นดารา” โปรดิวเซอร์คิดว่าไม่เพียงแค่ความรุนแรงที่เขาสามารถเล่นได้เท่านั้น การเป็นอดีตนักมวยก็มีผลทาง กายภาพที่เหมาะกับบทบาทนี้ แต่ก็มีความอ่อนแอของเขาที่ผู้ชมจะรักและจะเห็นว่าเขาเหมาะกับ บทบาทนี้แค่ไหน “Liam เป็นนักแสดงที่คนดูชอบ ผู้ชมช่วยลุ้นให้เขาแก้ไขคดีได้และไม่บาดเจ็บ ผู้ชม ต้องการให้เขาพร้อม อยู่ตลอดและกำจัดคนร้ายและทำอะไรก็ได้ที่เขาจะต้องทำ” Rona จำได้ว่า สคริปที่ทีมงานได้รับนั้นต้องเปิดหน้าต่อไปตลอด “ในนาทีที่คุณได้เริ่มอ่านคุณจะพบว่าคุณหยุดอ่านไม่ได้ หน้าต่อไปคุณก็จะได้ลุ้นว่ามีอะไรต่อ มันเป็นสคริปที่หายากที่คุณจะนั่งอ่านในครั้งแรกแล้วจะบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มัน Non Stop หรือ หยุดไม่ได้จริงๆ “โปรดิวเซอร์ชื่นชมวิธีการเล่าเรื่องทีมีองค์ประกอบปริศนาทำให้เรื่องลึกลับดูคลาสสิกและวิธีการเล่าเรื่องของนักเขียน Ryan Engle ก็ทำให้ภาพของ Neeson ที่ออกมาดูเป็นผู้นำมาก Rona บอกว่า “ คุณจะรู้เรื่องผ่านมุมมองของ Bill Mark มันเหมือนกับปลาเฮอร์ริ่งสีแดงในสระ คุณจะไม่รู้เลยว่า ใครเป็นคน ร้ายจนกว่าจะจบ คุณรับรู้ได้ว่าคุณตกอยู่ในสถานการณ์ เดินทางไปบนเครื่องบินความเร็ว สูงเหนือ น่านน้ำมหาสมุทรและคนร้ายที่อาจจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงล็อคตัวเองไว้บนเครื่องบินร่วม กับคุณ ภาพยนตร์เรื่อง Non Stop เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ทุกคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด" Neeson เริ่มต้นอาชีพการแดสงของเขาด้วยการรับบทเป็นนักแสดงดราม่าก่อนจะมารับบทบู๊ แอ็คชั่นที่ได้รับการยอมรับ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกล่าวว่า “ ผมรู้สึกตื่นเต้นเมื่อ Joel โทรหาผมแล้วบอกเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ “ นักแสดงกล่าวต่อว่า “ ผมลองผ่านบทดูแล้ว หยุดเปิดหน้าต่อไปไม่ได้ เลยจริงๆ” นักแสดงยอมรับว่าเขาตกหลุมรักบทบาท Bill Marks เพราะตัวละครมีข้อบกพร่องและความจริงที่ว่าอดีตตำรวจที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสารและผู้ชมไปพร้อมๆ กัน Neeson สังเกตว่า “เมื่อคุณเจอ Bill ในตอนต้นของภาพยนตร์เป็นผู้ชายที่มีอายุ เป็นคนที่คุณไม่อยากจะนั่งด้วย ข้างๆในการเดินทางที่ยาวนานบนเครื่อง แต่ผมก็ยังชอบเขา เพราะมันพื้นฐานมากด้วยบทภาพยนตร์เป็นสัญลักษณ์ของฮีโร่ เขาเหมาะที่จะเป็นคนที่ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือได้ เขาเป็นคนธรรมดาที่มีความท้าทายเพื่มขึ้นในชีวิต “ Silver รู้ว่ามันเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบของนักแสดงอย่าง Neeson และผู้กำกับอย่าง Collet-Serra “พรสวรรค์ของผู้กำกับ Jaume เขาสามารถสร้างความตึงเครียดเจาะลึกเข้าไปในใจ ของตัวละคร “ โปรดิวเซอร์กล่าว “บวกกับความสามารถในการแสดงของ Liam เขารู้ว่าจากจุดนี้ แล้วต้องไปจุดไหนต่อ แล้วคุณจะรู้ว่ามันดีแค่ไหนกับภาพยนตร์เรื่องนี้” สำหรับ Clooet-Serra เขาเคยร่วมงานกับ Silver ในภาพยนตร์สามเรื่อง House of Wax, Orphan และ Unknown และสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Non Stop นี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเอาชนะความกลัวของเขา ผู้กำกับกล่าวว่า “ ผมกลัวการบิน และเหตุผลเดียวที่ผมเลือกกำกับเรื่องนี้เพราะผมต้องการจะสำรวจความกลัวของผม ความกลัวที่จะทำภาพยนตร์ในสถานที่ที่ผมกลัวแบบนั้น” เขาชื่นชมองค์ประกอบทางจิตวิทยาของสคริปที่เปิดเผยตัวตนของมนุษย์ในสถานที่ที่คับแคบ ผู้กำกับกล่าวว่า: ผมเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ฆาตกรรม ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับคุณได้พบกับกลุ่มคนแล้วคุณไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร คุณรู้ก็ต่อเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเผยว่า จริงๆพวกเขาเป็นยังไง เมื่อคุณอยู่บนเครื่องบิน มีบางอย่างผิดเพี้ยนไป มันบังคับให้คุณต้องเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา คุณอยากจะเลือกเป็นแบบไหน คุณจะเป็นฮีโร่ได้หรือไม่ หรือคุณจะเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่” Collet-Serra ก็ยังคงตื่นเต้นที่จะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับดารานำจากภาพยนตร์เรื่อง Unknown ในความจริงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามแล้วสำหรับพวกเขาที่ทำงานร่วมกัน ภาพยนตร์ เรื่อง Run All Night เพิ่งถ่ายทำจบไป เขากล่าวว่า “ เมื่อผมอ่านสคริป ผมคิดไม่ออกว่าใครจะเล่นได้ดีไปกว่า Liam เราทำงานเข้าขากันดีตั้งแต่ Unknown. Liam เขาใส่ความสร้างสรรค์เข้าไปในตัวละครที่เขาเล่นมาก เขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ คุณแต่เชื่อใจเขา คุณชื่นชมเขา และผมก็อยากทำหนังแบบนี้ ทุกอย่างผ่านไปได้รวดเร็ว เราไม่มีเวลาที่จะมาพัฒนาการแสดงให้ตัวละคร มันค่อนข้างสำคัญเรามีนักแสดงที่สามารถนำเสนอเรื่องราวให้กับผู้ชมได้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง Liam เป็นนักแสดงที่สมบูรณ์แบบมากสำหรับภาพยนตร์แนวนี้” Neeson ชื่นชมผลงานทั้งหมดที่ผู้กำกับเชื้อสายเสปนสร้าง เขาอธิบายว่า “ Jaumeเป็นคนสร้างหนังที่น่าหลงไหล” ความรู้ในการใช้กล้องของเขาและการถ่ายทำที่น่าทึ่ง นอกจากนั้นยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคในฐานะของผู้กำกับ ที่ Neeson ชอบโดย Collet Serra ถ่ายทอดอารมณ์ให้ภาพยนตร์ได้ดีเยี่ยม “Jaume เขาสามารถส่งผ่านความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ผ่านกล้องไปสู่นักแสดงของเขา เขารู้ว่าอารมณ์มากไปหรือว่าน้อยไป และเขาสามารถส่งต่อข้อมูล ไปให้นักแสดงซึ่งการได้ร่วมงานกับเขามันเป็นการทำงานที่สบายมาก Non Stop ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Alex Heineman ในหนังเรื่องที่สามของ Silver และ Roma เขาเห็นด้วยกับภาพของการบีบคั้นในภาพยนตร์ของ Roach, Richardson และ Engle ที่สร้างสรรค์ออกมา นาฬิกาและความคับแคบของพื้นที่ในเหตุการณ์นี้ Marks ต้องค้นหาตัวฆาตกรด้วยตัวของเขาเอง อันที่จริงความคิดที่ถูกกักไว้บนเครื่องบินนี้ผู้ชมสามารถรับรู้อารมณ์ได้ดี เขาเล่าว่า “คนส่วนใหญ่กลัวที่จะเดินทางโดยเครื่องบินและถ้าเมื่อบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างบินอยู่ นั่นแหละคืออารมณ์ ร่วมที่น่ากลัว” กล่าวถึง Clooet Serra ผู้กำกับคนนี้พัฒนาชื่อเสียงในฐานะคนทำหนังแนวสยองขวัญ และในภาพยนตร์ Non Stop อย่างที่ Heineman พูด “ Jaume ได้ใส่ความรู้สึกของผู้ชมไว้ที่ Marks ได้ ตั้งแต่ฉากแรกผู้ชมจะรู้สึกว่าอยู่ในหัวเขาหรือมีประสบการณ์ร่วมกับเขา”

ผู้โดยสาร นักแสดงร่วม

เมื่อมีนักแสดงหลักแล้ว มันก็ถึงเวลาที่จะต้องหานักแสดงร่วมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ Rona พูดถึงนักแสดงมาร่วมทำงานกับ Collet Serra ผู้กำกับมากฝีมือคนนี้ เขากล่าวว่า “ Jaume รู้ว่าเขาต้องการอะไรและเขาต้องเตรียมอะไร นักแสดงรักเขาและเชื่อเขา เขารู้ว่าจะวางกล้องเอาไว้ตรงไหน และรู้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรมากเท่าๆกับตัวละครและนักแสดง เราอยู่รอบๆ เขา” หลังจากขึ้นเครื่อง Marks นั่งถัดจาก Jen Summers ที่รับบาทโดย Julianne Moore. Collet Serra อธิบายให้เธอเข้าใจถึงบทบาทของตัวละครตัวนี้ในภาพยนตร์ระทึกขวัญนี้ว่า “ทำตัวปกติ ให้เหมือนเมื่อคุณขึ้นเครื่องแล้วได้ที่นั่งร่วมกับคนที่คุณจะไม่ได้เห็นเขาอีกแน่ๆ บางครั้งอาจจะมีบทสนทนานิดๆหน่อยๆ บางครั้งอาจจะไม่มีเลยก็ได้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Liam และ Julianne จะต้องแสดงเป็นคนแปลกหน้าที่ต้องมาร่วมกันแก้ปัญหา เพราะเกิดเหตุการณ์บนเครื่องบิน ” Collet Serra ตื่นเต้นที่ได้ Moore มาร่วมแสดง เพราะเธอเคย แสดงร่วมกับ Neeson มาแล้วในบทของ ภรรยาของเขาจากภาพยนตร์เรื่อง Chloe “พวกเขาต่างมี เคมีที่ตรงกันมาก” Moore เป็นนักแสดงที่มีความสามารถในการเล่นกับ Neeson “Liam และ Julianne ทั้งคู่เป็น คู่ที่น่าตื่นเต้นมาก เมื่อ Julianne เดินไปออกมาดอกไม้ก็บาน เธอให้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้มาก เธอมาเพื่อบอก Liam ว่าพรสวรรค์ที่คู่ควรเป็นอย่างไร เธอเป็นที่ชื่นชอบและน่าทะนุถนอม และเป็นองค์ประกอบทั้งหมดของผู้หญิงแกร่ง และเธอก็ทำตัวเป็นผู้ต้องสงสัยได้ดีทีเดียว” Rona กล่าว Moore รู้สึกว่า สคริปต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้นึกถึง ภาพยนตร์ที่สร้างเกี่ยวกับหายนะ อาทิ The Towering Inferno ภาพยนตร์ทริลเลอร์ ที่ตัวละครถูกขังไว้ในที่ที่มีความเสี่ยงสูง เธออธิบายว่า “ ฉันชอบความคิดที่ว่าทุกคนอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด มันให้ความรู้สึกอึดอัดอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ฉันนึกถึงภาพยนตร์ในยุค 70 ที่ทุกคนต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงและภาพยนตร์ดำเนินเรื่องได้อย่าง รวดเร็วคุณไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือว่าใครที่เป็นผู้ร้าย “ พูดถึงตัวละครที่เธอคิด Moore เสนอว่าเธออยากรู้เกี่ยวกับประวัติของตัวละคร Jennifer ว่ามีลับลมคมในอะไร “เธอเป็นใครก็ไม่รู้ที่พยามจะหาที่นั่งข้างหน้าต่างให้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม คุณจะรู้จักเธอมากขึ้นเมื่อภาพยนตร์ดำเนินเรื่องไปแล้ว แต่ยังไงเสีย คุณก็ยังไม่รู้เบื้องหลังทั้งหมดของเธอเพราะเธอไม่ใช่คนที่จะบอกอะไรซักเท่าไหร่” Moore บอกว่า Collet Serra ได้กล่าวถึงอย่างเฉพาะเจาะจงและเคารพสำหรับทีมผลิตว่า “Jaume เป็นผู้กำกับที่มหัศจรรย์ เขาเอาใจใส่ภาพยนตร์ที่เขากำกับเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าเขาควรจะผรับปรุงตรงจุดไหนและควรจะถ่ายทำตรงไหน เขาไม่ใช่แค่ใครที่มาถ่ายทำและก็บอกว่า “ฉันจะดูว่าจะถ่ายยังไงต่อ” เขาคิดก่อนแล้วถ่ายทำ เขารู้ว่าแต่ละตอนจะคัทตอนไหน เพราะว่ามันจะได้ ไม่เสียเวลาเขาเป็นปรมาจารย์ทางด้านภาพยนตร์ประเภทสืบสวนและชีวิตที่น่าทำงานด้วยอย่างยิ่ง” นอกจากนั้นเธอยังกล่าวถึงนักแสดงนำของเรื่อง “Liam เป็นนักแสดงที่มากความสามารถมีพรวรรค์และเป็นคนที่เยี่ยมมาก ในจุดนี้เขาเป็นฮีโรหนังแอ็คชั่นที่เยี่ยมมากคุณต้องยกให้เขาเลย คุณเชื่อในตัวเขาพอๆกับเชื่อในบทบาทที่เขาได้รับ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และต้องการแก้ปัญหาจริงๆ” ในภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจาก Neeson และ Moore แล้วยังมีนักแสดงร่วมที่ขับบทให้ทั้งสองเด่นขึ้น โปรดิวเซอร์ Silver เป็นแฟนของภาพยนตร์ Downton Abbey ซึ่งก็น่าตื่นเต้นที่ได้นักแสดงรางวัลเอ็มมี่มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นคือ Michelle Dockery สำหรับนักแสดง หญิงที่รับบท Lady Mary ตอนนี้พลิกบทบาทมาแสดงเป็น แอร์โฮสเตส Nancy ซึ่งเธอเองก็กล่าวว่า “มันยากมาก การแสดงเป็นเด็กสาวที่สดชื่นและมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลามากกว่าพนักงานคนอื่นๆ แต่จากเบื้องหลังชีวิตของเธอลึกๆแล้วเธอเป็นคนที่อดกลั้น มาก” ในสถานะของ Nancy และ ทหารอากาศ มันค่อนข้างจะคลุมเครือในความสัมพันธ์ Dockery อธิบายว่า “Nancy และ Bill มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ พวกเขามาขึ้นเครื่องลำเดียวกัน เธอเห็นบางอย่างในตัวของข้าราชการขี้เมาคนนี้ตลอดเวลา เธอรู้ถึงปัญหาของเขา และนั่นก็อธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงกลายเป็นคนที่เขาจะดึงมาเป็นพวก เธอรู้จักเขาดี” แม้ว่านักแสดงหญิงท่านนี้จะไม่เคยรับบทในภาพยนตร์ทริลเลอร์มาก่อน แต่เธอก็ชื่นชมความสามารถของ Collet Serra ที่สามารถใช่เทคนิคต่างๆแต่ก็ยังคงได้ผลตามเป้าหมาย Dockery บอกว่า” Jaumeให้อิสระกับนักแสดงในการแสดงแต่ละฉาก เขากล้ามากและสนุกกับมัน แม้ว่ามันจะมีข้อ จำกัดฉากที่ยากหรือว่าใช้อารมณ์ ผมประทับใจในวิธีการของเขาและเทคนิคต่างๆที่ท้าทาย แต่ก็ยังได้ผลอย่างที่เขาต้องการ” ดาราสนับสนุนอีกหลายท่าน อาทิ Corey Stoll ฆาตกรบนเที่ยวบินระทึก เขาเคยรับบทนักการเมืองที่ติดยาในซีรี่ย์ House of Cards หรือ บท Guillermo del Toro จากซีรี่ย์ ทางโทรทัศน์ เรื่อง The Strain ในบทตำรวจ NYPD ชื่อ Austin หรือ Scoot McNairy นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง 12 Years a Slave และ Argo มารับบท Tom และดาราดาวรุ่งอย่าง Nate Parker จากThe Great Debaters รับบท Zack Omar Metwally รับบทเป็นผู้โดยสารอีกท่าน เป็น Dr. Fahim Nasir “เขากล่าวว่า ตัวละครตัวนี้เป็นหมอมาจากอังกฤษ และนับถือมุสลิม เขาก็ดึงดูดผู้โดยสารคนอื่นๆ ผมจินตนาการว่าผู้ชมจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเขานะ เพราะเขาดูทื่อเกินไป แต่บางทีก็อาจจะเป็นไปได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เยี่ยมตรงที่กรจัดวางผู้โดยสารแต่ละคนให้มีความแตกต่างกันเราจะรู้จักพวกเขาทีละนิดๆ Jaume พาเราท่องเที่ยวจากตัวละครหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง เป็นวิธีการเล่าให้เชื่อเขาว่าเป็นคนแบบนี้ แล้วเรา ก็ไม่เชื่อ” Anson Mount ดารายอดนิยมจากซีรี่ย์ทางโทรทัศน์เรื่อง Hell on Wheels ในบท Jack Hammond มารับบทเป็น ทหารอากาศคนที่สอง ในมุมของ Mark เขาเป็นคนที่สนุกกับ โอกาสที่ได้รับไม่ใช่แค่ได้แสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ Neeson เท่านั้นแต่ยังมีคิวบู๊ อีก “มันเยี่ยมมากที่ได้แสดงร่วมกันกับ Liam ในภาพยนตร์แอ็คชั่น เพราะเขาต้องเป็นคนติดเหล้า แต่ยังมีมีทักษะทางด้านการต่อสู้อย่างดีเยี่ยม คุณจะต้องแสดงให้ดูเหมือนเป็นแบบนั้นมากที่สุด คุณจะต้องฝึกซ้อมและออกแบบคิวบู๊ทั้งวัน” และทั้งวันที่ว่ามา McNairy รับบทเป็นผู้โดยสารชื่อ Tom Bowen กล่าวอย่างขบขันว่าเขา ใช้เวลา 12 ชั่วโมงบนเครื่องซึ่งดูเหมือน ”เป็นการตื่นเช้าบนเที่ยวบินไปออสเตรเลียทุกวัน” แต่เขาก็ขอบคุณกับโอกาสที่มอบให้เขาได้ร่วมงานกับทีมงานและเพื่อนนักแสดง จนมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นและในวันถ่ายทำทุกคนจะใช้เวลาร่วมกันอยู่บนรถเทรลเลอร์ที่เรียกว่า เครื่องบิน” นักแสดงร่วมรางวัลออสการ์ Lupita Nyong ที่ได้รับรางวัลจากการแสดงเรื่อง 12 Years a Slave รับบทเป็น แอร์โฮสเตสเพื่อนของ Nancy ชื่อ Gwen และพนักงานบนเครื่องคนอื่นๆ Roache รับบทเป็น David อาทิ นักบินประจำเครื่อง 767 Jason Butler Harner รับบทเป็น Kyle ผู้ช่วยนักบิน Shea Whighamรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ Marenick เป็นผู้ที่ติประสานงานกับสำนักงานใหญ่TSA ที่ปฎิเสธคนที่มีปัญหาแอลกอฮอล์มาทำหน้าที่

ระทึกขวัญ ที่ 500 ไมล์/ชม การออกแบบ และ ถ่ายทำ ฉากระทึกขวัญ

การถ่ายทำฉากบนเครื่องบินขนาดใหญ่มันเป็นงานที่ยากทั้งนักแสดงและทีมงาน สำหรับคนออกแบบฉากอย่าง Alexander Hammond อธิบายว่า มันจะทำให้ผู้กำกับเข้าใจในภาพที่ออกมาว่ามันจะเป็นยังไงทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง “ Jaume นำเสนอภาพและเนื้อเรื่องอย่างตรงไปตรงมา เขาเป็นผู้กำกับที่เยี่ยมมาก เขาจะมีพื้นที่ในการทำงานสำหรับฉันและนักแสดงเสมอ เขาจะกังวลเกี่ยวกับสถานที่ ว่าคนจะไปอยู่ได้ตรงไหนบนเครื่องบินบ้าง เขาต้องการเห็นการวางจุดในการถ่ายทำและถ้าพื้นที่ไม่เอื้อต่อการเล่นบทบู๊ตามบทที่เขียน “ Silver เชื่อว่า Collet-Serra และทีมของเขา นำทีมโดย Flavio Labiano ตากล้องภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคใหม่โดยการใช้เลนส์ แบบถ่ายต่อเนื่อง “Jaume นำเราไปใส่ไว้ในเนื้อเรื่องในตัวละคร บนเครื่องเราจะต้องไม่เคยเห็นกันมาก่อน เพราะเวลาใช้กล้องในการถ่ายทำทั่วทั้งเครื่องบิน “ ผู้กำกับไม่ได้ยึกเอาความคิดของตัวเองในการสร้างฉากแอ็คชั่นในพื้นที่จำกัด เขามองว่าสภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญในการถ่ายภาพยนตร์ Collet-Serra กล่าวว่า การถ่ายทำฉากแอ็คชั่นบนพื้นที่ลักษณะนี้ค่อนข้างท้าทายมาก เพราะจะต้องทำให้คนรู้สึกใกล้ชิดกับ ฉากแอ็คชั่นให้มากที่สุด ผู้ชมจะได้รู้สึกว่าพวกเขาอยู่บนเครื่องบินลำนี้ บทแอ็คชั่นจะทำให้พวกเขามีส่วนร่วมและรู้สึกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นรอบๆพวกเขา คุณสามารถทำฉากระมอเตอร์ไซค์ล้ม หรือ รถชนได้แต่การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จำกัดแบบนี้มันจะต้องรุนแรงกว่าฉากแอ็คชั่นปกติ” นอกจากไม่กี่ฉากที่สนามบิน JFK และรันเวย์สนามบิน Long Island ตะวันออก ภาพยนตร์เรื่อง Non-Stop ถูกถ่ายทำทั้งหมดที่ Brooklyn, New York, ซึ่งที่นั่นใหญ่พอที่จะใส่เครื่องบินไว้ได้ สำหรับการออกแบบสถานที่ มันเหมือนกับการสร้างเรือในขวดแก้ว ในการสร้างเครื่องบิน767 ที่มีที่นั่ง ชั้น first-class จำนวน 29 ที่นั่งและ ชั้นประหยัด 159 ที่นั่ง ซึ่งจะต้องสร้างขึ้นมาใหม่ในเครื่องบินและต้องมีจุดที่ต้องวางกล้องด้วย แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องบินที่ไม่ต้องบินขึ้นจริง แต่ในภาพยนตร์เรื่อง Non-Stop นี้เครื่องบิน ต้องเคลื่อนที่ได้ในฉากระทึกขวัญเครื่องบินต้องสั่นทั้งลำ นักแสดงจะต้องเจอกับสถานการณ์ข้าวของ กระจายในเครื่องบิน แผนกเทคนิคพิเศษที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเขย่าเครื่องบินโดยมีการวัดค่าความสั่นของเครื่องมาเป็นคลื่นความถี่ Hammond กล่าวว่า “ในระหว่างที่กล้องขยับ และเอ็ฟเฟ็คบางตัวก็ต้องขยับด้วย เพื่อความสมจริง” ในการสร้างเครื่องบิน Hammond และทีม ได้ปรับเปลี่ยนความกว้างของเครื่องบินสำหรับ ติดตั้งอุปกรณ์ในการถ่ายทำ Hammond อธิบายว่า คุณต้องถ่ายทำนักแสดงที่ใส่รองเท้าส้นสูงในพื้นที่แคบๆ แน่นอนว่าคุณไม่อยากให้หัวพวกเขาติดเพดานแน่ๆ คุณต้องมีการคำนวนพื้นที่ให้การถ่ายทำอยู่ในระดับสายตาของนักแสดง แต่จะต้องไม่รู้สึกอึดอัดด้วย” มีการจัดฉากให้กับทางทีมงานและนักแสดงรู้สึกผ่อนคลาย Hammond อธิบายว่า “เราใส่ไฟไว้ที่พื้นเพื่อให้สว่างขึ้น ซึ่งมันจะทำให้ดูมีพื้นที่ทางเดินระหว่างที่นั่งกว้างขึ้น เมื่อพื้นที่ระหว่าง ทางเดินกว้างขึ้นแล้ว แสงไฟจะทำให้คุณดูตัวเล็กลง” เมื่อเริ่มการถ่ายทำ ทีมออกแบบจะต้องรวบรวมองค์ประกอบของเครื่องบินเพื่อเซ็ทค่าเฉลี่ยในการสร้างฉาก ที่จะต้องไม่ต่างจากของจริง คนออกแบบฉากกล่าวว่า “เราจะต้องทำออกมาให้เหมือนที่สุดกับที่ทางสายการบินออกแบบในเครื่องของจริง ซึ่งการจัดแสงจะมีความสำคัญมากมันเป็นความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไปในเครื่องบิน เครื่องสว่างมีเสียงประกาศแล้วตอนกลางคืนทุกคนก็นอนหลับ” การจัดแสงในเครื่องบินจะต้องทำอย่างแนบเนียนที่สุดในระกว่างการถ่ายทำแต่ละวัน Ham mond บอกว่า เรามีไฟกว่า 3000 ดวงบนเครื่องบิน ถ้าใส่ทุกอย่างเป็น LED ทั้งหมด การจัดแสดงจะถูกควบคุมโดย DP เราไม่ต้องทำแสงมากในสภาพแวดล้อมแบบนี้ คุณมีแสงจากที่ใช้กับตัวนัก แสดงอยู่แล้ว แต่ก็ต้องปรับแสงของฉากให้ดูไม่หลอกตา เราต้องจัดแสดง สำหรับกลางวันและ กลางคืนและในวันถัดไป” เราต้องจัดห้องเล็กๆที่แยกออกมาจากตัวเครื่องบินเพื่อให้กลายเป็นห้องน้ำ ในฉากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นระหว่างฮีโร่ของเราและผู้โดยสาร ลำดับการถ่ายทำ ผู้กำกับจะต้องใช้ฉากห้องน้ำและฉากเครื่อง บินคู่กัน Hammond อธิบายว่า “การออกแบบการเคลื่อนไหวบนเครื่องบินมันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก หนึ่งในฉากต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มากคือฉากการต่อสู้ของ Liam และ ผู้ชายอีกคนในห้องน้ำ ที่ตัวไม่เล็กเลยทั้งคู่ การเอาผู้ชายตัวใหญ่สองคนเขาไปในห้องน้ำเล็กๆ แถมผู้กำกับยังอยากให้มีฉากนี้ ความคิดในการต่อสู้ในที่แคบจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก แทนที่จะบอกว่า “ไม่เราทำมันในห้องน้ำที่ใหญ่ๆ แทน” เขากลับบอกว่า “ทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ ต้องมีการออกแบบคิงบู๊ในที่แคบให้ดูสมจริง” Rona พูดถึงเทคนิคที่ใส่เข้าไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “คุณต้องการให้ทุกคนเชื่อว่าอะไรเกิดขึ้นและมันจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงแบบไหน ดังรั้นเราต้องทำให้มันสมจริงที่สุด เราจึงปรึกษากับทาง TSAหน่วยงานของทหารอากาศ พนักงานบนเครื่องบินและนักบิน พวกเขาบอกเราว่าอะไรควรจะเกิดขึ้น และพวกเขาจะทำยังไงซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาจะทำจริงๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์” ผู้เชี่ยวชาญต่างให้คำแนะนำเราในการใช้อาวุธบนเครื่องบินและจะฆ่าอย่างไรให้เร็วที่สุดฝ่ายประสานงานสตันท์ MARK VANSELOW เป็นคนที่ทำงานร่วมกับ Neeson บ่อยที่สุด บอกว่าการทำงานร่วมกับการจัดฉากของ Hammond “เรามองจากการสร้างห้องน้ำเรามองว่าตัวละครจะสามารถทำอะไรได้บ้างและทักษะอะไรที่จะทำได้บ้าง อาจจะไม่ต้องอาศัยเทคนิคการต่อสู้ที่ลึกล้ำเพราะเครื่องบินเปรียบเสมือนบ้านของเขาที่ที่พวกเขาฝึกฝน เราเลยสร้างสถานการณ์ที่มีคนสองคนที่ชำนาญในพื้นที่และคอยดูวว่าพวกเขาจะทำอย่างไรให้เป็นธรรมชาติที่สุด ในพื้นที่อันจำกัดนี้ เทคนิคส่วนใหญ่จะใช้ได้ต่อเมื่อเป็นพื้นที่โล่ง แต่ในพื้นที่แคบแบบนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะแค่ศอกก็ติดแล้วการต่อสู้จะต้องทำใช้พื้นที่น้อยแต่บาดเจ็บมาก” ทีมงานทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรมพิเศษ Dockery พูดว่า “เรามีแอร์โฮสเตสที่เข้าอบรมพร้อมกับเรา เราลองหลายอย่าง ที่จะให้การถ่ายทำปลอดภัย การดูแลตัวเอง การจัดการกับคนที่ก้าวร้าวอะไรที่ควรทำอะไรที่ไม่ควร ผมเรียนรู้เกี่ยวกับการปกป้องห้องนักบิน “ Universal Pictures และ StudioCanal นำเสนอ Silver Pictures อำนวยสร้าง ร่วมกับ Anton Capital Entertainment S.C.A. และ Lovefilm ภาพยนตร์โดย Jaume Collet-Serra film นำแสดง ภาพยนตร์เรื่อง Non Stop โดย Liam Neeson ร่วมกับนักแสดง อาทิ Julianne Moore, Scoot McNairy, Michelle Dockery, Nate Parker, Jason Butler Harner และ Anson Mount คัดเลือกนักแสดงโดย เครื่องแต่งกายนักแสดงโดย Amanda Mackey, Cathy Sandrich Gelfond ภาพยนตร์เรื่องนี้มีโปรดิวเซอร์ร่วมคือ Richard Mirisch, Adam Kuhn เพลงประกอบโดย John Ottman เขียนบทระทึกขวัญโดย Jim May ออกแบบการถ่ายทำโดย Alexander Hammond ผู้กำกับภาพโดย Flavio Labiano และโปรดิวเซอร์พิเศษคือ Steve Richards, Ron Halpern, Olivier Courson, Herbert W. Gains, Jeff Wadlow อำนวยการสร้างโดย Joel Silver, Andrew Rona, Alex Heineman บทภาพยนตร์โดย John W. Richardson & Chris Roach ฉากโดย John W. Richardson ,Chris Roach และ Ryan Engle ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Jaume Collet-Serra ลิขสิทธิ์ของสตูดิโอ ©2014 Universal Studios www.nonstopthefilm.com

เกี่ยวกับนักแสดง

LIAM NEESON เลียม นีสัน (Bill Marks บิลล์ มาร์ค) เขากลายเป็นเจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นในปัจจุบัน แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาเคยได้รับรางวัล Academy Award®-ในบทของ Oskar Schindler จากภาพยนตร์เรื่อง Schindler’s List (1993)ของ Steven Spielberg เขายังได้รับรางวัลจากภาพยนตร์ Michael Collins (1996) และเคยสวมบทบาทของ Alfred Kinsey นักบำบัดทางเพศจากภาพยนตร์เรื่อง Kinsey (2004) เล่าประวัติเขาแบบย้อนกลับไป เขามีงานแสดงมากในช่วงปี 2012 เขาแสดงถึง 5 เรื่อง เริ่มด้วย The Grey ในภาพยนตร์ เรื่องนี้เขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากสภาพแวดล้อมและ จากหมาป่าในอลาสก้าในเดือนมีนาคม 2012 เขาแสดงร่วมกับ Sam Worthington และ Ralph Fiennes ในภาพยนตร์ของ in Warner Bros เรื่อง Wrath of the Titans ในเดือนพฤษภาคม 2012 เขาก็รับบทในภาพ ยนตร์แอ็คชั่นของ Peter Berg เรื่อง Battleship ในเดือนกรกฎาคม 2012 เขาก็รับบท Christopher Nolan ในภาพยนตร์เรื่อง The Dark Night Rises และในเดือนตุลาคม 2012 เขานำแสดงในภาพ ยนตร์เรื่อง Taken 2 หนังภาคต่อจาก Taken ที่ติดอันดับบ๊อกออฟฟิศ ย้อนไปที่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 Neeson แสดงภาพยนตร์ระทึกขวัญ เรื่อง Unknown กับ Diane Kruger และ January Jones ในปี 2010 เขาร่วมแสดงในภาพยนตร์ของ Warner Bros เป็นภาพยนตร์ปี 1981ที่เอากลับมาทำใหม่เรื่อง Clash of the Titans ที่บอกเล่าถึงตำนานของเทพ เพอร์เซอุสที่ต้องต่อสู้กับเมดูซ่าและปีศาจคราเกน เพื่อช่วยเหลือ เจ้าหญิงอันโดรเมด้า นอกจากนั้นในปี 2010 เขาก็ปรากฎตัวในภาพยนตร์เรื่อง After Life แสดงร่วมกับ Christina Ricci ภาพยนตร์ที่ พูดถึงผู้หญิงสาวที่ติดอยู่ระหว่างโลกของการมีชีวิตและความตายและกับสัปเหร่อ ในปี เดียวกันเขาก็แสดง ในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ที่เอากลับมาทำใหม่กับซีรี่ย์ที่ชื่อว่า The A-Team แสดงกับ Bradley Cooper และ Jessica Biel และภาพยนตร์เรื่องThe Next Three Days นอกจากนั้นเขายังให้เสียงของสิงโต Aslan ในภาพยนตร์เรื่อง The Chronicles of Narnia:The Voyage of the Dawn Treader Neeson แสดงในภาพยนตร์ของ BBC เรื่อง Five Minutes of Heaven ที่ฉายในปี 2009 และได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีในเทศกาลหนัง Sundance Film Festival ในปี 2009 ในปี 2008 Neeson เขาแสดงภาพยนตร์เรื่อง Taken ที่ติดอันดับ box-office กับบท อดีตสายลับที่ถูกแก๊งส์ค้ามนุษย์ชาวอัลเบเนียจับตัวลูกสาวไป ปีเดียวกัน เขาก็แสดงเรื่อง The Other Man ของ Richard Eyreแสดงคู่กับ Laura Linney ในเดือนพฤษภาคม 2008 เขาให้เสียง พากย์ให้กับสิงโต Aslan ในภาพยนตร์ติดอันดับ box-office เรื่อง The Chronicles of Narnia: Prince Caspian ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ในปี2005 The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe ในปี 2006 Neeson ปูทางด้วยภาพยนตร์ดราม่าแก้แค้นแบบคลาสสิค เรื่อง Seraphim Falls เล่นกับ Pierce Brosnan ในปี 2005 เขาปรากฎตัวในเรื่อง Kingdom of Heaven ของ Ridley Scott เขาเคยเป็นนักแสดงร่วมในภาพยนตร์เรื่อง Batman Begins ที่กำกับโดย Nolan เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Kinsey ที่แสดงร่วมกับ Linney ภาพยนตร์ของ Bill Condon จาก the Los Angeles Film Critics Association เขาเคบร่วมแสดงกับ Hugh Grant, Emma Thompson และ Keira Knightley ในภาพยนตร์รัก Love Actually (2003) ที่เขียนและกำกับบทโดย Richard Curtis. เขาเดินทางสู่ถนนแห่งบอร์ดเวล์เมื่อปี 2002 ในบทนักแสดงร่วมกับเพื่อนของเขาคือ Linneyในภาพยนตร์เรื่อง The Crucible ของ Arthur Miller การแสดงของเขาในบท John Proctor ทำให้ เขาได้รับรางวัล Tony Award nomination. ในปี 2001 Neeson ได้แสดงกับ Harrison Ford ในภาพยนตร์เรื่อง K-19: The Widowmaker ภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเรื่องจริงของเรือดำน้ำหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย เขายังเคยแสดงในภาพยนตร์ ตลกร้ายGun Shy (2000), ที่แสดงร่วมกับ Sandra Bullock Neeson เคยแสดงในภาพยนตร์อมตะอย่าง Star Wars: Episode I–The Phantom Menace (1999)ในบทอัศวินเจได ร่วมกับ Obi-Wan Kenobi และ เด็กน้อย Anakin Skywalker ในปี เดียวกัน เขาก็แสดงภาพยนตร์เรื่อง The Haunting ร่วมกับ Catherine Zeta-Jones ในปี 1998 เขารับบท Jean Valjean ในภาพยนตร์เรื่อง Les Misérables ของ Victor Hugoที่ร่วมแสดงกับ Geoffrey Rush, Uma Thurman และ Claire Danes นอกจานั้นยังแสดงในภาพยนตร์ The Judas Kiss ของ David Hare ในปี 1996 เขารับบทในภาพยนตร์เรื่อง Michael Collins (1996) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัล Best Actor honors at the Venice Film Festival และ Golden Globe nomination for Best Performance และ Drama and London’s prestigious Evening Standard Awardและตัวภาพยนตร์เองก็ได้รับ รางวัล The Golden Lion Award ด้วย ในปี 1993 เขาได้รับความสนใจจากการแสดงบทในภาพยนตร์เรื่อง Schindler’s List ซึ่งได้รับรางวัล Academy Award®สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม และเขายังได้รับ รางวัล Golden Globe และ a BAFTA นักแสดงชาวไอริชคนนี้เริ่มต้นจากการเป็นครู หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Queen’s University Belfast เมเจอร์ ฟิสิกส์ วิทยาสาตร์คอมพิวเตอร์ และ คณิตศาสตร์ ในปี 1976 เขาเล่นละครเวทีเรื่อง The Risen People หลังจากนั้นสองปีเขาก็ร่วมงานกับโรงละครในไอแลนด์ มีผลงานคือ Translations ของ Brian Friel และ The Plough and the Stars ของ of Sean O’Casey ในโรงละครแมนเชสเตอร์ อังกฤษ ซึ่งที่นั่นทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ในปี 1980 John Boorman เห็นเขาแสดงใน Of Mice and Men ของ John Steinbeck จึงเรียกเขามาคัดตัวสำหรับเรื่อง Excalibur ตำนานดาบของออสเตรีย หลังจากวันนั้นเขาปรากฎตัวในภาพยนตร์กว่า 40 เรื่องในบทต่างๆ อาทิ The Bounty (1984) กำกับโดย Roger Donaldson และมีนักแสดงร่วมอย่าง Mel Gibson และ Anthony Hopkins ภาพยนตร์เรื่อง Lamb (1985) ที่ทำให้เขา ได้รับรางวัล Drama Award nomination Duet for One (1986) ของ Andrei Konchalovsky ที่ได้ นักแสดงร่วมอย่างJulie Andrews ภาพยนตร์เรื่อง A Prayer for the Dying (1987) ที่แสดงร่วมกับ with Mickey Rourke และ Bob Hoskins ภาพยนตร์ของ Roland Joffe เรื่อง The Mission (1986) ที่แสดง ร่วมกับ Robert De Niro และJeremy Irons. Neeson ได้รับการยกย่องในบททหารผ่านศึกเวียดนามที่หูหนวกและเป็นใบ้ จากภาพยนตร์เรื่อง Suspect(1987) ของ Peter Yates และปติมากรชาวไอริชในภาพยนตร์เรื่อง The Good Mother (1988) ที่แสดงร่วมกับ Diane Keaton และบทนักวิทยาศาสตร์ ในภาพยนตร์แนวแฟนตาซร ทริลเลอร์ เรื่อง Darkman (1990). ของSam Raimi Neeson แสดงภาพยนตร์ดราม่าของ David Leland เรื่อง Crossing the Line เรื่องจริงของ William McIlvanney ในปี 1992, เขารับบทวิศวกรนาซี ภาพยนตร์ของ David Seltzerดัดแปลงจากหนังสือขายดี Shining Through แสดงร่วมกับ Michael Douglas นอกจากนั้นเขายังแสดงภาพยนตร์เรื่อง Under Suspicion และHusbands and Wives (1992). ในปีเดียวกันด้วย ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่เขาร่วมแสดงอาทิ Ethan Frome (1993) , Nell (1994) Before and After(1996) , Rob Roy (1995) ในปี 1993 เขาสร้างละครเพลงบอร์ดเวย์ เรื่อง Anna Christieที่ได้นักแสดงร่วมอย่าง Richardson และเขาก็ได้รางวัล Tony Award จากการแสดงนี้ด้วย JULIANNE MOORE จูเลียน แอน มัวร์ (Jen Summers เจน ซัมเมอร์) หนึ่งในนักแสดงที่มีความหลากหลายและมีความสามารถพิเศษ Julainne Moore (รับบท Jen Summers) เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการแสดงของเธอในงานแสดงที่น่าจดจำในทุกบทบาทจาก ภาพยนตร์หลากรส ทั้งคอมเมอร์ดี้ ไปดราม่า จากจอใหญ่ไปจนจอเล็กล่าสุด Moore เพิ่งแสดงภาพยนตร์เรื่อง Carrie ผลงานระทึกขวัญคลาสสิคที่นำกลับทำใหม่ ของ Kimberly Peirce ในปี 2014 เธอได้แสดงในภาพยนตร์ยอดนิยม The Hunger Games: Mockingjay Part 1, ในบท President Alma Coin ร่วมกับ Jennifer Lawrence และ Philip Seymour Hoffman นอกจากนั้นยังมีภาพยนตร์แนวผจญภัยแฟนตาซีเรื่อง Seventh Son ที่แสดงร่วมกับ Jeff Bridges ล่าสุดเธอเพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Maps to the Stars ของ David Cronenberg ที่ร่วมแสดงกับ Robert Pattinson และ John Cusack. Moore เป็นนักแสดงหญิงคนที่ 9 ที่ได้รับรางวัลออสการ์ถึงสองรางวัลในปีเดียวกัน จากเรื่อง Far From Heaven สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และเรื่อง The Hours สาขานักแสดงสนับสนุน หญิงยอดเยี่ยม ในปี 2003 หลังจากนั้นก็ได้รับรางวัลอีกหลายรางวัลอาทิ Screen Actors Guild และ Golden Globe awards nominations นอกจากนี้ Moore ได้รับรางวัล Academy Award® ถึง 4 ครั้ง รางวัล Golden Globe Award nominee 8 ครั้ง,และรางวัล SAG Award nominee 10 ครั้ง , รางวลั BAFTA nominee 3 ครั้ง รางวัล Independent Spirit Award nominee 3 ครั้ง ในปี 2012 เธอได้รับ รางวัล Emmy Award จากดารานำหญิงยอดเยี่ยม ในบท Sarah Palin ในภาพยนตร์ทางช่อง HBO เรื่อง Game Change และในปี 2013 จากบทเดียวกันเธอได้รับรางวัล SAG และ Golden Awards นอกจากนั้นเธอยังได้รับรางวัล GLAAD Media Awards ในปี 2004 และรางวัล Silver Berlin Bear Award ในปี 2003 จาก Berlin International Film Festival รางวัล Best จาก Venice Film Festival Actress ในปี 2002 และรางวัล Gotham Awards และ the Tribute to Independent Vision Award ในปี 2001 จาก Sundance Film Festival. ภาพยนตร์ที่โดดเด่นของ Moore มีหลายเรื่อง อาทิ Crazy, Stupid, Love, The Kids Are All Right, A Single Man, The Forgotten, What Maisie Knew, The English Teacher, Laws of Attraction, Chloe,6 Souls, Blindness, Saving Grace, I’m Not There, Children of Men, Hannibal, The Lost World: Jurassic Park, The Fugitive, Nine Month, Benny & Joon, The Hand That Rocks the Cradle, The End of the Affair, Boogie Nights, Magnolia, Cookie’s Fortune, Short Cuts, Don Jon, Gus Van Sant’s ภาพยนตร์ทำใหม่จากต้นฉบับ Psycho, Safe, Vanya on 42nd Lebowski. นอกจากนั้น Moore ยังเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ เธอเพิ่งวางจำหน่ายหนังสือของเธอ ไปถึง 4 เล่ม ชื่อ My Mom is a Foreigner และ But Not to Me ซึ่งเขียนจากประสบการณ์จริงของ เธอจากการเลี้ยงดูของมารดาของเธอที่สก๊อตแลนด์ นอกจากนั้นยังมีหนังสือเด็กที่ประสบความสำเร็จ คือ Freckleface Strawberry and the Dodgeball Bully และ Freckleface Strawberry: Best Friends Forever ในปี 2013 Mooreได้ผลิต App Freckleface Strawberry Monster Maker app ลงใน ITunes เป็นโปรแกรมสร้างตัวละครปีศาจแล้วส่งให้กับเพื่อนหรือครอบครัว นอกจากนั้นหนัง สือของเธอยัง ประสบความสำเร็จ การทำละครเพลง Broadway ด้วย หลังจากจบการศึกษาปริญาตรีการแสดงในสาขา fine arts จากมหาวิทยาลัยบอสตัน Moore ก็เริ่มงานแสดงใน Broadway เรื่องต่างๆ อาทิ Serious Money, Ice Cream with Hot Fudge และ Hamlet, และได้มีส่วนร่วมในการผลิต The Father, กับ Al Pacino และ Wendy Wasserstein เรื่อง An American Daughter กับ Meryl Streep ในปี 2006 เธอเปิดตัวละคร Broadway เรื่อง The Vertical Hour, เขียนบทโดย David Hare. Moore และครอบครัว พักอยู่ที่นิวยอร์ค MICHELLE DOCKERY มิเชลล์ ดอกเกอรี่ (รับบท แนนซี่ Nancy) Michelle ผ่านการอบรมมาจาก Guildhall School of Music & Drama ที่ลอนดอน เธอได้ แสดงในละครทางฌทรทัศน์ที่ได้รับรางวัลเรื่อง Downton Abbey สำหรับตัวเธอเองเธอได้รับรางวัลหลายรางวัลด้วยกันอาทิ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากละครโทรทัศน์ในปี 2013 ,รางวัล Golden Globe Awards รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจาก 2013 Screen Actors Guild Awards และ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม Primetime Emmy Awards ในปี 2012 และ 2013 Michelle มีผลงานละครทางโทรทัศน์หลายเรื่อง อาทิ Restless (BBC) , Henry IV (BBC, Shakespeare Productions Ltd.) , The Turn of the Screw (BBC) , Cranford (BBC) , The Courageous Heart of Irena Sendler (CBS) , Waking the Dead (BBC), Red Riding: In the Year of Our Lord 1983 และ Red Riding: In the Year of Our Lord 1974 (Revolution Films) , Heartbeat (ITV) , Poppy Shakespeare (ITV) , Dalziel and Pascoe (BBC) , One Night (Century Films/Channel 4), Hogfather (Sky One) และ Fingersmith (ITV). ผลงานละครเวทีมีดังนี้ Hamlet (Crucible Theatre) , Burnt by the Sun (Royal National Theatre), Pygmalion (The Old Vic) เรื่องนี้ทำให้เธอได้รับรางวัล นักแสดงหน้าใหม่ในปี 2008, Dying for It (Almeida Theatre) , Pillars of the Community (National Theatre) , The UN Inspector (National Theatre) , Henry IV (National Theatre) และ His Dark Materials (National Theatre). ผลงานภาพยนตร์ อาทิ Anna Karenina, Hanna, Shades of Beige และ Selfless. LUPITA NYONG’O ลูปิต้า ยองโอ (รับบทเป็น Gwen) a Slave ของ Steve McQueen จากหนังสือขายดีของ Solomon Northup (Ejiofor) เรื่องราวของชายผิวดำจากตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กที่ถูกลักพาตัวและขายไปเป็นทาส Nyong'o รับบทเป็น Patsey ทาสที่เข้ามาติดต่อกับโซโลมอน อำนวยการสร้าง โดย Brad Pitt ในนามB Entertainment, Dede Gardnerและ New Regency, Fox Searchlight Pictures ฉายเมื่อตุลาคมปี 2013. จากบทบาทที่ได้รับทำให้เธอได้รับรางวัลหลายรางวัล อาทิ Screen Actors Guild และ Golden Globe award nominations the New Hollywood Award ในปี 2013 , Hollywood Film Awards และติดอันดับ 10 นักแสดงที่น่าจับตามอง โปรดิวเซอร์ ของสารคดีเรื่อง In My Genes สารคดีของชาวเคนย่าแปดคนที่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาต่างเกิดมาตัวขาว เพราะปัญหาทางพันธุกรรมที่ทำให้เม็ดสีผิวผิดปกติ ในหลายส่วนของแอฟริกา รวมทั้งเคนย่า ยังมีคนที่ผิดปกติแบบนี้อยู่ เป็นสารคดีที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของคนตัวเผือกในสังคมของคนดำ อาทิ The Winter’s Tale (Yale Repertory Theatre), รับบทเป็น Sonya ใน Uncle Vanya และรับบท เป็น Katherineในเรื่อง The Taming of the Shrew, เธอยังเคยแสดงในผลงานงานของ Michael Mitnick ในเรื่อง Elijah.

เกี่ยวกับคนทำภาพยนตร์

JAUME COLLET-SERRA โจว์เม โคเล็ท เซอร์ร่า (Directed by)

เกิดในบาร์เซโลนา, สเปน, 1974 ในช่วงปี 1990 Collet-Serra ย้ายจากบาร์เซโลนาไปยัง ลอสแองเจอลิส เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียน ภาพยนตร์ที่ Columbia College Hollywood หลังจากจบ การศึกษา เขาก็ไปประกอบอาชีพเป็นนักเขียน จากนั้น เขาก็หันไปทำงานด้านการกำกับมิวสิควีดีโอ ให้กับหลายวงอาทิ the global brands PlayStation, Budweiser, MasterCard, Miller Lite, Pontiac, Smirnoff Ice, Renault, Verizon และ 7UP, ทำงานร่วมกับเอเจนซี่อย่าง McCann Erickson, J. Walter Thompson (JWT), BBDO และ TBWA\CHIAT\DAY. แนวการกำกับของ Collet-Serra มีความเด่น และสามารถแสดง ภาพดานมืดออกมาอย่างรวดเร็ว ผลงานจึงปเข้าตาดปรดิวเซอร์อย่าง Joel Silver, ที่จ้างเขามา กำกับภาพยนตร์เรื่อง House of Wax ในปี 2005 ในปี 2007 เขาหลงรักในฟุตบอลเขาจึงกลับไปที่เสปนบ้านเกิดและถ่ายทำ ภาพยนตร์ Goal II: Living the Dreamหลังจากนั้นเขาก็กลับมาหา Silver อีกครั้ง และกำกับภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Orphanที่ทำรายได้ไปกว่า 76 ล้านเหรียญ และ กำกับภาพยนตร์ระทึกขวัญของ Liam Neeson เรื่อง Unknownที่กวาดรายได้ไปกว่า 130 ล้านเหรียญ ล่าสุด Collet-Serra กำลังถ่ายทำภาพยนตร์รีเมค เรื่อง Akira ให้กับทางสตูดิโอ Warner Bros. Pictures และกำลังตัดต่อภาพยนตร์เรื่อง Run All Night, ที่นำแสดงโดย Neeson, Ed Harris และ Joel Kinnaman. ในด้านการกำกับ Collet-Serra ผลิตหนังร่วมกับ Juan Solá ให้กับบริษัทของพวกเขา Ombra Films. ผลงานของ Ombra อาทิ Mindscape กับ Studiocanal เรื่อง Curve กับ Jason Blum , Blumhouse Productions และ Universal Pictures; และเรื่อง Eden กับ Voltage Pictures ผลงานถัดไปของ Ombraจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ที่ บูดาเปส JOHN W. RICHARDSON จอห์น ดับบลิว ริชาร์ดสัน (Screenplay by/Story by) เขาเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัย Webster University ที่ เซนต์ ลูอิส มิสซูรี่ หลายปีต่อมาเขาทำงานที่ลอสแองเจอลิส ทำด้านการเขียนบทโทรทัศน์และสารคดี ก่อนจะกลายเป็น นักเขียนร่วมกับ Christopher Roach. เขาทำงานหลายงานร่วมกับ Roach CHRIS ROACH คริส รอสช์ (Screenplay by/Story by) เขาเริ่มการเขียนบทจาก Columbia College ชิคาโก้ หลังจากย้ายไปอยู่ที่ลอสแองเจอลิส เขาก็เริ่มทำงานโทรทัศน์ เขียนบทให้กับ WWE Monday Night Raw และกลายเป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ใน Big Brother เขาเริ่มเขียนบทร่วมกับ John W. Richardson ในปี 2010 ภาพยนตร์เรื่อง Non-Stop เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่พวกเขาเขียนบทร่วมกัน RYAN ENGLE’s (Screenplay by) เขาเริ่มทำงานกับซีรี่ย์ วีดีโอเกมส์ Rampageให้กับ New Line Cinema; ภาพยนตร์สารคดี The New West,” ให้กับ New Regency; และทัวีซีรี่ย์ Ben 10 ให้กับ Silver Pictures และ Cartoon Network. JOEL SILVER โจเอล ซิลเวอร์ (Produced by) หนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เขาผลิตภาพยนตร์ มากกว่า 65 เรื่อง รวมทั้งภาพยนตร์ในกระแสที่คุ้นหูอย่าง The Matrix, Lethal Weapon , Die Hard และ Predator. ตอนนี้ภาพยนตร์ของเขาทำรายได้มากกว่า 13 พันล้านทั่วโลก ในเดือนกันยายนปี 2012 เขาซื้อ Venice Beach, California, ที่ทำการไปรษณีย์ และ เขาก็เอามาตกแต่งทำใหม่เป็น ออฟฟิศ Silver Pictures ซึ่งเดิมถูกสร้างในปี 1939 มีพื้นที่ 22,000-ตารางฟุตที่จะถูกสร้างเป็นเมืองแห่งศิลปะ ออฟฟิศ และห้องฉายภาพยนตร์ Silver Pictures กำลังผลิตภาพยนตร์แอ็คชั่น ทริลเลอร์ The Gunman นำแสดงโดย Sean Penn, Javier Bardem และ Idris Elba. จากนวนิยายของ Jean-Patrick Manchette เรื่อง “Prone Gunman,” Penn รับบทเป็นคนที่ถูกองค์กรของตัวเองทรยศเขาต้องเล่นเกมส์เหมือนแมวจับหนูไป จนทั่วยุโรป นอกจากนั้นยังมีภาพยนตร์เรื่องอื่นที่กำลังสร้างอยู่อาทิ Gypsy, Weird Science, Sherlock Holmes 3 และ EscapeFrom New York. ในปี 2009 Silver สร้างภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Sherlock Holmes ที่ทำรายได้ไปมากกว่า ,518 ล้านดอลล่าห์ กำกับโดย Guy Ritchie, นำแสดงโดย Robert Downey Jr. เป็น Holmes และ Jude Law เป็น Dr. Watson. ต่อมาเขาก็ตัดสินใจทำภาคต่อ Sherlock Holmes: A Game of Shadows ที่ยังคงได้ Downey Jr. และ Law มารับบทเดิมและยังกำกับโดย Ritchie. สำหรับภาค สองนี้ทำรายได้ไป 545 ล้านดอลล่าห์ นอกจากนี้ทาง Silver Pictures ยังผลิตภาพยนตร์ตลก ยอดฮิตอย่าง Project X ที่ทำรายได้ไปกว่า 100ล้านดอลล่าห์ สร้างภาพยนตร์ในปี 1999 ของ Silver อาทิ The Matrix ก็ทำรายได้ไปกว่า 456 ล้านดอลลาห์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้มากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของ Warner Bros. Pictures ภาพยนตร์ The Matrix ได้รับ Academy Awards® ถึงสี่รางวัล ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นรางวัลทางด้าน Visual Effects และ ดีวีดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ขายได้กว่าหนึ่งล้านแผ่น ช่วยกระตุ้นตลาดของยอดขายเครื่องเล่นดีวีดีด้วย ภาคที่สองThe Matrix คือ The Matrix Reloaded ทำรายได้ไปกว่า 740 ล้านดอลฯ ทำให้หนังติด อันดับหนังเรท R ที่มีรายได้สูงสุดไปตลอดกาล The Matrix Revolutionsภาคสุดท้ายของมหากาพย์ ทำรายได้ไป 203 ล้านดอลฯ รวมๆแล้ว The Matrix ทั้งสามภาค ทำรายได้กว่า สามพันล้านทั่วโลก ผลงานการสร้างของ Silver ภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ V for Vendetta, ดัดแปลงจาก นวนิยาย โดยได้ดาราอย่าง Natalie Portman เรื่อง Kiss Kiss Bang Bang, ภาพยนตร์แนว แอ็คชั่น คอมเมอดี้ ทริลเลอร์ จากการเขียนบทและกำกับโดย Shane Black, ที่ได้นักแสดงอย่าง Downey Jr., Val Kilmer และ Michelle Monaghan เรื่อง Romeo Must Die, ที่นำแสดงโดย Jet Li และ Aaliyah ภาพยนตร์เรื่อง Exit Wounds ที่นำแสดงโดย Steven Seagal และ DMX และเรื่อง Swordfish, ที่นำแสดงโดย John Travolta, Hugh Jackman และ Halle Berry. Silver Pictures ช่วงแรกๆ ผลิตภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Commando และ Jumpin’ Jack Flash. ในปลายปี 1980 Silver Pictures ได้พลิกตลาดวงการภาพยนตร์ด้วยการสร้างภาพยนตร์ซ๊รี่ย์ Lethal Weapon ภาพยนตร์แอ็คชั่นซีรี่ย์ Die Hard และ Die Hard 2: Die Harder. ตามมาด้วย The Last Boy Scout, Demolition Man, Ri¢hie Ri¢h, Executive Decision และConspiracy Theory. จากภาพยนตร์ทำเงิน House on Haunted Hill ในปี 1999 Silver ผลิตภาพยนตร์ในนาม Dark Castle แนวเขย่าขวัญหลอนประสาท อาทิ 13 Ghosts ในปี 2001, Ghost Ship ในปี 2002, Gothika ในปี 2003 และ House of Wax ในปี 2005. Dark Castle ยังผลิตภาพยนตร์เรื่องอื่นๆอีก ล่าสุดผลงานของ Ritchie กับภาพยนตร์เรื่อง RocknRolla ที่ได้นักแสดงนำอย่าง Gerard Butler, Tom Wilkinson, Thandie Newton และ Mark Strong ภาพยนตร์หลอนประสาทอย่าง Orphan ที่ได้นักแสดงอย่าง Vera Farmiga และ Peter Sarsgaard และภาพยนตร์ของ Jaume Collet-Serra เรื่อง Unknown ที่ได้นักแสดงอย่าง Liam Neeson, January Jones และ Diane Kruger. Silver iยังประสบความสำเร็จในการผลิตรายการโทรทัศน์ เขาผลิตซีรี่ย์ Moonlight ให้กับช่อง CBS ที่คว้ารางวัล the People’s Choice Award สำหรับรายการทีวี เขาเคยผลิตภาพยนตร์ทาง โทรทัศน์เรื่อง Veronica Mars ที่นำแสดงโดย Kristen Bell เขายังร่วมผลิตรายการโทรทัศน์ร่วมกับ Richard Donner, David Giler, Walter Hill และ Robert Zemeckis ในซีรี่ย์ Tales From the Crypt ที่ได้รับรางวัล 7 ปีซ้อนทางช่อง HBO ต่อมา Silver เริ่มผลิต The Warriors ต่อมาก็เรื่อง 48 Hrs. เรื่อง Streets of Fire และเรื่อง Brewster’s Millions. นอกจากการผลิตภาพยนตร์แล้ว Silver และกลุ่มเพื่อนของเขายังผลิตเกมส์กีฬาที่เรียกว่า Ultimate Frisbee ที่ Columbia High School ในเมเปลิวู้ด และ นิวเจอซี่ เขาเริ่มเกมส์กีฬานี้และต่อมาก็กลายเป็นกระแสให้จัดทัวร์ถึง 50 ประเทศ ANDREW RONA แอนดรู โรนา (Produced by) เขาเป็นประธานของ Silver Pictures. Rona เข้ามาทำงานที่บริษัทใน เดือนมกราคมปี 2009 ช่วงนั้นทางบริษัทกำลังปล่อยภาพยนตร์เรื่อง Sherlock Holmes และภาคต่ออย่าง Sherlock Holmes : A Game of Shadows, และเรื่อง The Book of Eli ที่ได้ดารานำอย่าง Denzel Washington. Rona ผลิตภาพยนตร์หลายเรื่องให้กับบริษัท ทั้งนี้รวมถึง Project X และ Unknown, ที่ได้ดาราอย่าง Liam Neeson. Rona เป็นโปรดิวส์เซอร์ในภาพยนตร์ของ Pierre Morel เรื่อง The Gunman ภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ ที่ได้ดาราอาทิ Sean Penn, Javier Bardem และ Idris Elba เขาเพิ่งผลิต ภาพยนตร์ระทึกขวัญอย่าง Invasion. ในอนาคตอันใกล้เขาจะทำหนังรีเมค อาทิ The Loft กำกับโดย Erik Van Looy และภาพยนตร์ที่กำลังสร้างในนาม Silver Pictures/Studiocanal เรื่อง Cash Truck กำกับโดย Albert Hughes. เขายังผลิตภาพยนตร์อีกหลายเรื่ออาทิ Ex-Pats อ้างอิงจากนวนิยายขายดี กับทาง Universal Pictures เรื่อง Weird Science; เรื่อง Escape From New York เรื่อง Ben 10 อ้างอิงจากซีรี่ย์ของทาง Cartoon Network series; เรื่อง Gypsy เรื่อง Harper อ้างอิงจากนวนิยายขายดีของ Ross Macdonald และ เรื่อง The Last Photograph ของ Zack Snyder ระยะเวลาก่อนที่ร่วมงานกับ Silver Pictures, Rona เป็นประธานบริษัท ของ was Rogue Pictures (บริษัทลูกของ Universal Pictures) ในปี 2005 ถึง 2009 รับผิดชอบภาพยนตร์เรื่อง The Strangers และ Coraline. ในปี2000 ถึง 2004, Rona เป็นประธานอยู่ที่ Dimension Films เขาเริ่มทำงานที่ Dimension’s parent company, Miramax Films, ในปี 1993 ทำงานเป็นผู้ช่วยของ Harvey Weinstein. เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ปรับตำแหน่งเป็น production executive ระหว่างนั้นบริษัท ก็ผลิตหนังทำเงินอาทิ Scream, Scary Movie และ Spy Kids เรื่อง Robert Sin City ของ Rodriguez เรื่อง Bad Santa และ Reindeer Game sของ John Frankenheimerในปี 2004 Rona เขาเกิดและเติบโตที่นิวยอร์ค ALEX HEINEMAN เอล็ก ไฮน์แมน (Produced by) เติบโตในลอง ไอแลนด์ นิวยอร์ค จบการศึกษาจาก Marist College ในปี 2000. เขาเริ่มทำงานที่ Dimension Films ที่นิวยอร์ค New York ในฐานะผู้ช่วยในปี 2001 เขาทำงานให้กับ Andrew Rona ต่อมาเขากลายเป็น creative executive ที่ Dimension Films ในปี 2004 ได้เรียนรู้ ขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์ อาทิ Sin City , The Spy Kids และ Scary Movie ในปี 2005 เขากลายมาเป็นรองประธานบริษัทที่ Rogue Pictures ดูภาพยนตร์ อาทิ The Strangers และ The Last House on the Left. เขาทำงานร่วมกับผู้กำกับหลายท่านอาทิ Rogue, Bryan Bertino, Neil Marshall และ Dennis Iliadis ในเดือนมกราคม 2009, เขาย้ายไปทำงานให้กับ Warner Bros. Studios ในตำแหน่ง senior vice president ให้กับ Joel Silver’s Silver Pictures. ช่วงนั้นเขาได้ผลิตภาพยนตร์อย่าง Project X.ที่ทำเงินไปได้กว่า100 ล้านเหรียญ เขายังดูแลภาพยนตร์เรื่องอื่นของ Warner Bros อาทิ Line of Sight พัฒนาบทมาจาก F. Scott Frazier. Heineman ผลิต The Galton Case ในเดือนมกราคมปี 2013. Silver Pictures ย้ายมาสังกัดกับ Warner Bros. ซึ่งก่อนหน้านั้น 5 ปีสังกัดกับ Universal Pictures และ Heinemanได้ดูแลการผลิตภาพยนตร์เขย่าขวัญเรื่อง Invasionที่เป็นภาพยนตร์ในการกำกับเรื่องแรกของ Sean Carter ต่อมาเขาก็ผลิตภาพยนตร์รีเมค เรื่อง Weird Science ให้กับ Universal Pictures, โดยได้สคริปต์จาก Michael Bacall, และภาพยนตร์รีเมคเรื่อง Escape From New York และ Sanctuary ภาพยนตร์เขย่าขวัญเหนือธรรมชาติ ให้กับ Paramount Pictures เขายังเป็น executive producer ให้กับเรื่อง Ben 10 และ Non-Stop STEVE RICHARDS สตีฟ ริชาร์ด (Executive Producer) เขาเป็นประธานอีกคนของ Silver Pictures เขาใช้เวลาถึง 16 ปีในการทำงานร่วมกับ Joel Silver. เขาเป็นคนปล่อยแบรนด์ Dark Castle Entertainment เขาดูแลการผลิตภายภาพยนตร์ภายใต้ แบรนด์ Dark Castle อาทิ ภาพยนตร์เรื่องThe Apparition เขายังผลิตเรื่อง The Book of Eli เรื่อง Ninja Assassin เรื่องWhiteout เรื่อง Orphan เรื่อง The Reaping เรื่อง Thir13en Ghosts เรื่อง Ghost Ship เรื่อง Gothika และ House of Wax. Richards เข้าร่วมบริษัท Silver Pictures ในปี 1995.เขาใรผลงานอาทิ เรื่อง Kiss Kiss Bang Bang, เรื่อง The Matrix Reloaded,เรื่อง และ Dungeons & Dragons เขาจบ MBA จาก UCLA Anderson School ในสาขา Management และจาก Temple University Scott Free Productions และ Ridley and Tony Scott’s company ซึ่งเขาได้ผลิต เรื่อง White Squall และต่อมาอีกหลายเรื่อง RON HALPERN รอน ฮาล์เพิร์น (Executive Producer) ในฐานะของประธายบริษัท Studiocanal ดูแลตลาดภาพยนตร์ต่างประเทศ ดูแลทั้งตลาด ทางยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และออสเตรเลีย เขาโปรดิวส์เรื่อง Inside Llewyn Davis เรื่อง Susanne Bier’s Serena แสดงโดย Bradley Cooper และ Jennifer Lawrence เรื่องThe Gunman ผลิตโดย Joel Silver กำกับโดย Pierre Morel และแสดงโดย Sean Penn, Javier Bardem และ Idris Elba เรื่อง The Two Faces of January เขียนและกำกับโดย Hossein Amini แสดงโดย Viggo Mortensen, Kirsten Dunst และ Oscar Isaac; and Paul เรื่อง King’s Paddington ผลิตโดย David Heyman แสดงโดย Nicole Kidman, Hugh Bonneville และ Colin Firth. ก่อนที่จะทำงานกับ Studiocanal ในปี 1996, เขาทำงานให้กับ CBS Sports ที่ three Olympic Games เขาจบ BA และ MBA จาก Columbia University. OLIVIER COURSON โอลิเวอร์ คัวร์สัน(Executive Producer) ในฐานะประธานกรรมการและ CEO เขาพัฒนา Studiocanal มากว่า 6 ปี จนวันนี้กลายเป็นสตูดิโอฝั่งยุโรปที่เป็นผู้นำด้านการผลิตภาพยนตร์ จัดซื้อ และจัดจำหน่าย กระจายไปในทุกสื่อและประเทศในโซนยุโรป ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี รวมทั้งออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ Courson มีความคิดก้าวหน้าสำหรับในการจัดหาภาพยนตร์เข้าบริษัท StudioCanal อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy โดย Alfredson ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ John le Carré และได้ดาราอย่างGary Oldman, Colin Firth และ Tom Hardy แพดดิงตัน เรื่อง Inside Llewyn Davis ของ Coen brothersที่ได้ดาราอย่าง Oscar Isaac, Justin Timberlake, Carey Mulligan และ John Goodman, ผลิตโดย Scott Rudin เรื่อง The Two Faces of January จากนวนิยายของ Patricia Highsmithกำกับโดย Hossein Amini แสดงโดย Viggo Mortensen, Kirsten Dunst และ Oscar Isaac เรื่อง Paddington, ผลิตโดย David Heyman แสดงโดย Colin Firth, Nicole Kidman และ Hugh Bonneville เรื่อง Shaun the Sheep ในปี 2012 เขาย้าย Studiocanal ในส่วนของโทรทัศน์เพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 เขาขยายตลาดโทรทัศน์ของบริษํทไปลงทุนที่อังกฤษ กับ RED Production Company หนึ่งในผู้นำตลาดภาพยนตร์อิสระ โดยมีเป้าหมายกลายเป็นผู้นำในยุโรป ด้านเนื้อหา HERBERT W. GAINS เฮอร์เบิร์ท ดับบิว เกนส์ (Executive Producer/Unit Production Manager) เขาผลิตภาพยนตร์เรื่องล่าสุดคือ GI Joe: Retaliation ของ Jon M. Chu แสดงโดย Dwayne Johnson, Bruce Willis และ Channing Tatum ของค่าย Paramount Pictures, และ Green Lantern ของ Martin Campbell ที่แสดงโดย Ryan Reynolds และ Blake Lively ของค่าย Warner Bros. Pictures เขายังได้ร่วมงานกับ Zack Snyder ในภาพยนตร์เรื่อง Watchmen และ Neil Jordan ในภาพยนตร์เรื่อง The Brave One ที่ได้นักแสดงอย่าง Jodie Foster. เขาผลิตภาพยนตร์ทริลเลอร์ The Reaping แสดงโดย Hilary Swank และ Radio แสดงโดย Cuba Gooding, Jr.และ Ed Harris. เขามีส่วนร่วมในภาพยนตร์ House of Wax แสดงโดย Elisha Cuthbert และ Chad Michael Murray ในปี 2004 กับภาพยนตร์โรแมนติกเรื่อง Little Black Book แสดงโดย Brittany Murphy เรื่อง Cradle 2 the Grave แสดงโดย Jet Li และ DMX เรื่อง comedy Orange County ของ Jake Kasdan เรื่อง Hardball แสดงโดย Keanu Reeves และ Diane Lane เรื่อง Summer Catch แสดงโดย Freddie Prinze, Jr. และ Jessica Biel. เขารับหน้าที่เป็น production manager ในภาพยนตร์บางเรื่องอาทิ The Negotiator และ Mousehunt, เขาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ Natural Born Killers, Heaven & Earth, Point Break,Pacific Heights, Dragon: The Bruce Lee Story, Dirty Dancing, Manhunter และ The Fan. Gains เพิ่งผลิตภาพยนตร์ให้กับทาง Warner Bros. Pictures เรื่อง The Judge แสดงโดย RobertDowney Jr., Robert Duvall, Billy Bob Thornton, Vera Farmiga, Melissa Leo และ Vincent D’Onofrio. JEFF WADLOW’s เจฟฟ์ วาร์ดลอว์ (Executive Producer) หลังจาก Quentin Tarantino เหฌนผลงานการเขียนและกำกับจาก Kick-Ass 2, เขาก็บอกว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในปี 2013 จบการศึกษาจาก Dartmouth College และ Peter Stark ผลิตรายการอยู่ที่ USC, Wadlow เลยได้มากำกับ tHE tOWeR oF BabBLe, หนังสั้นโดย Kevin Spacey. ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรางวัลไปเป็นโหลก่อนจะได้รับรางวัลในงานเทศกาลภาพยนตร์ Chrysler Million Dollar Film Festival. Wadlow เขาทุ่มเงินไปกว่า 1 ล้านดอลลาห์ เพื่อสร้าง สารคดีเรื่องแรกของเขา Cry_Wolf โดยRogue Pictures ภาพยนตร์เรื่องถัดไปในฐานะผู้กำกับคือเรื่อง Never Back Down ภาพยนตร์แอ็คชั่น ดราม่าแสดงโดย Djimon Hounsou ผลงานทางโทรทัศน์ เขาเริ่มขายงานให้กับ CBS และ Warner Bros. Television เขาสร้างเรื่อง Hail Mary ให้กับโทรทัศน์ช่อง CBS แสดงโดย Minnie Driver. ต่อมาเขาก็ผลิตภาพยนตร์ซีรี่ย์ทาง โทรทัศน์เรื่อง Bates Motel.ให้กับช่อง A&E series ล่าสุดเขาเขียนบทภาพยนตร์ the X-Men และ X-Force FLAVIO LABIANO ฟลาวิโอ ลาเบียโน (Director of Photography) เขาเป็นช่างภาพที่ร่วมงานกับทาง Jaume Collet-Serra ถึงสามเรื่อง, เขาเคยร่วมกันสร้างภาพยนตร์เรื่อง Goal II: Living the Dream และ Unknown ภาพยนตร์ที่ทำให้ทั้งคู่สนิทกัน การทำงานด้วยกันดดยตัดเรื่องเงินออกไปมันเป็นวิธีการทำงานของชาวเสปนในสหรัฐ Labiano ถ่ายทำภาพยนตร์ Bones แสดงโดย Snoop Dogg, และเคยผลิตละครทางโทรทัศน์เรื่อง Harlan County War ที่แสดงโดย Holly Hunter เขากำกับภาพให้กับภาพยนตร์ ทำเงินของSteven Spielberg เรื่อง Indiana Jones และ the Kingdom of the Crystal Skull.  ล่าสุด, Labiano กำกับภาพให้กับ Pierre Morel ในภาพยนตร์เรื่อง The Gunmanแสดงโดย Sean Penn, Javier Bardem และ Idris Elba. ALEXANDER HAMMOND เอล็คซานเดอร์ แฮมมอนด์ (Production Designer) เขาเพิ่งเสร็จงานจากภาพยนตร์เรื่อง R.I.P.D.ของUniversal Pictures ที่แสดงโดย Jeff Bridges, Ryan Reynolds, Kevin Bacon และ Mary-Louise Parker กับผู้กำกับ Robert Schwentke. Hammond ทำงานร่วมกับ Schwentke ในภาพยนตร์เรื่อง The Finest Hours, เรื่องราวของเรือลำเล็กที่บรรจุลูกเรือ 32 คน เขาเคยร่วมงานกับ Schwentke มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Red and Flightplan และซีซั่นแรกของซีรี่ย์ Lie to Me จากค่าย FOX เขาร่วมงานกับ Richard Kelly, บ่อย เรื่องล่าสุดคือ The Box ที่เป็นการรวมภาพยนตร์สามเรื่องไว้ด้วยกัน เขาร่วมงานกับ Donnie Darko ในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง Southland Tales และภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่อง Man on a Ledge เขาร่วมงานกับ David Ayer ในภาพยนตร์เรื่อง Street Kings และ เคยร่วมงานกับ Alan Poul ในปี 2010 กับภาพยนตร์เรื่อง The Back-Up Plan ภาพยนตร์เรื่องThe Contender ของ Rod Lurie ภาพยนตร์เรือง First Daughterของ Forest Whitaker และ ภาพยนตร์กึ่งแอนิเมชั่นอย่างGarfield. ในจอแก้ว, Hammond ทำงานให้กับ Len Wiseman กับซีรี่ย์ Sleepy Hollow ละครทางโทรทัศน์เรื่องอื่นๆ อาทิ ซีรี่ย์ 12 Miles of Bad Road และ Wedding Chapel ทางช่อง HBO ก่อนจะมาทำงานทางด้านนี้ เขาเป็น art directorให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ เรื่อง Dr. Seuss’ The Cat in the Hat เรื่อง Men in Black II เรื่อง K-Pax, Austin Powers: The Spy Who Shagged Me,เรื่องLost &Found และเรื่อง Tinseltown. เพิ่มเติมสำหรับอาชีพของเขา Hammond เคยทำงานในโรงภาพยนตร์ และเป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เขาเพิ่งออกแบบให้กับ To Kill a Mockingbird เขาออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายให้กับผู้กำกับ Bartlett Sher, JoAnne Akalaitis, James Bundy, Tazewell Thompson and Fracaswell Hyman, และอื่นๆ การออกแบบของเขาสามารถศึกษาได้จากตัวอย่างที่ The Juilliard School, Yale Repertory Theatre, Indiana Repertory Theatre, PlayMakers Repertory Company, Williamstown Theatre Festival, Idaho Shakespeare Festival, Great Lakes Theater Festival และ off-Broadway productions. Hammond ได้รับรางวัล Award for Scenic Design ในปี 1995 และในปี 2008 เขาก็ได้รับ รางวัล the Statue Award เขาจบการศึกษาจาก Phi Beta Kappa graduate of Amherst College. เขาได้รับปริญญาจาก the Yale University School of Drama ที่ที่เขาได้ทุนของ Donald M. Oenslager JIM MAY ACE. จิม เมย์, แอส (Edited by) ล่าสุดเขาเขียนบทให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Purge ของ James DeMonaco และเป็นที่ปรึกษาในการเขียนบทให้กับ Adam Wingard ในภาพยนตร์เรื่อง You’re Next. May เขียนบท ร่วมกับ Jon Chu ในภาพยนตร์ทำเงินอย่าง G.I. Joe: Retaliation. ก่อนหน้านั้น May เขียนบทให้กับ Jon Favreau ใน ภาพยนตร์เรื่อง Cowboys & Aliens และ Joe Carnahan ในเรื่อง The A-Team. May ถูกเรียกให้มา ร่วมงานโดย Stephen Sommers ให้กับภาพยนตร์สี่เรื่องไม่ว่าจะเป็น G.I. Joe: The Rise of Cobra เรื่อง Van Helsing เรื่อง The Mummy และ เรื่อง Deep Rising. เขาทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ Bruckheimer ในภาพยนตร์สามเรื่อง อาทิ Kangaroo Jack, เรื่อง Pearl Harborและเรื่อง Armageddon May เขียนบทให้ภาพยนตร์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญอย่าง Horsemen ภาพยนตร์ทำเงินอย่าง The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe ภาพยนตร์สยองขวัญ The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning and The Hitcher; และภาพยนตร์ Battle for Terra May เคยร่วมงานกับ Frank Oz ในภาพยนตร์แฟนตาซี The Indian in the Cupboard ภาพยนตร์ของ Steven Spielberg ที่ได้รับรางวัลออสการ์อย่าง Jurassic Park ภาพยนตร์ของ James Cameronที่ได้รับรางวัลออสการ์อย่าง Terminator 2: Judgment Day ภาพยนตร์ของ John McTiernan เรื่อง Die Hard และ The Hunt for Red October. เขายังเขียนบทให้กับหนังสั้น The Same ที่ได้รับรางวัล the Best Editing Prize ในปี2001 จากเทศกาลภาพยนตร์ Toronto และสารคดี Cookers ที่ได้รับรางวัล Best Film และBest Editing honors ในปี 2001 จากเทศกาลหนัง Milan International Film Festival. เขาเป็นคนเดนเวอร์ จาก โคโรลาโด May เข้าโรงเรียนภาพยนตร์ ที่ Loyola Marymount University ในลอสแองเจอลิส หลังจากจบการศึกษาก็เริ่มทำงานเกี่ยวกับการเขียนบท ที่ Boss Film Studios และ Sony Pictures Imageworks. CATHERINE MARIE THOMAS แคทเธอรีน มารีย์ โทมัส (Costume Designer) เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 1994. Thomas ออกแบบให้ตัวละครที่น่าจดจำหลายเรื่อง เธอตัดชุดสี เหลืองเข้ารูปให้เหมาะกับการต่อสู้กับ Uma Thurman ในภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill ของ Quentin Tarantino นอกจากนั้นยังออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับ Meryl Streep และ Lily Tomlin ในภาพ ยนตร์ของ Robert Altman เรื่อง A Prairie Home Companion และการออกแบบ เครื่องแต่งกายของเธอยังด้รับรางวัล Costume Design Guild Award-winning และ Primetime Emmy Award-nominated ในการออกแบบให้ Drew Barrymore และ Jessica Lange ในเรื่อง Grey Gardens ของ Michael Sucsy ช่อง HBO. Thomas ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ภาพยนตร์มากกว่า 24 เรื่อง ทั้งนี้รวมถึง , 27 Dresses และ The Proposal ของ Anne Fletcher ภาพยนตร์ของ Drew Barrymore เรื่อง Whip It. ภาพยนตร์ เรื่อง The Brave One ของ Neil Jordan เรื่อง The Matador ของ Richard Shepard The เรื่อง Hottest State ของ Ethan Hawke and เรื่อง Chelsea Walls เรื่อง Purple Violets กับนักเขียน และผู้กำกับ Edward Burns, เรื่อง The Groomsmen, เรื่อง Ash Wednesday และ Sidewalks of New York. เดือนตุลาคมปี 2012, Thomas ออกแบบในงานดีไซน์เนอร์ของฮอลลีวู้ด โดยออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับ พิพิธภัณฑ์ Victoria and Albert Museum ในลอนดอน Thomas ได้รับรางวัล Costume Designers Guild Award nominations จากภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill: ภาค1 และ 2 ทำให้เธอมีชื่อติดอยู่ใน A Century of Hollywood Costume Design” (โดย Harper Collins, 2007). เธอได้รับรางวัลจาก New York Women in Film & Television and Variety, และรางวัล Alumni Award จาก the Chicago Academy for the Arts. มีการพูดถึงเธออย่างแพร่ หลาย ในรายการโทรทัศน์ อาทิ The Talk, Access Hollywood, NPR’s Eight Forty-Eight, Clothes on Film and TBS’ Dinner and a Movie,และการสัมภาษณ์, นิตยสาร Vogue (U.S., U.K., Japan), W, Harper’s Bazaar, Women’s Wear Daily, The New York Times, USA Today, Variety และ The Hollywood Reporter. เธอเป็นคนชิคาโกที่อาสัยในบรู๊คลิน Thomas ศึกษาที่ Chicago Academy for the Arts และ the Kansas City Art Institute ก่อนจะมาทำอาชีพดีไซน์เนอร์ที่นิวยอร์ค ในร้านที่ Juilliard School. JOHN OTTMAN จอห์น ออตแมน (Music by) เขาเป็นคนที่ใช่สำหรับงานนี้เป็น ทั้งนักแต่งทำนองและคำร้อง สำหรับคนทำภาพยนตร์อย่าง Bryan Singer Ottman มีผลงานกับ ภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ The Usual Suspects, X2, Superman Returns ,Valkyrie. ภาพยนตร์ สยองขวัญ อาทิ Gothika, Orphan ภาพยนตร์ตลก อาทิ The Cable Guy, Bubble Boy ภาพยนตร์ แอ็คชั่น Kiss Kiss Bang Bang ภาพยนตร์เขย่าขวัญ Unknown, The Resident ภาพยนตร์ฮีโร่ Fantastic Four, Fantastic 4: Rise of the Silver Surfer และ Astro Boy เขาได้รับรางวัล Primetime Emmy Award ในซีรี่ย์ Fantasy Island ทางช่อง ABC เขาเพิ่งทำ เพลงให้ภาพยนตร์ แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ อย่าง Jack the Giant Slayer ล่าสุดเขาทำเพลงให้กับ X-Men: Days of Future Past. Ottman เติบโตที่ แซน โจสน์ แคลิฟอร์เนีย เขาตกหลุมรักทั้งเพลงและภาพยนตร์ หลังจากที่เขาจบการศึกษาจาก University of Southern California School of Cinematic Arts เขาก็ได้รับการติดต่อจาก Singer และก็ร่วมงานกันเรื่อยมา ซึ่งจะเห็นเขาในสายงานการวิจารณ์ภาพยนตร์ อาทิ ภาพยนตร์เขย่าขวัญคลาสสิคเรื่อง The Usual Suspects ซึ่งงานนี้ Singer กล่าวว่า “John ทำให้ฉันแปลกใจอยู่เสมอกับความสามารถที่ไม่สิ้นสุดกับการทำงานทุกอย่าง ไม่แค่จะทำให้ฉันประหลาดใจในการเขียนบทแบบอัจฉริยะ แต่เขาก็ยังมีความสามารถในเรื่องของดนตรีประกอบด้วย”