HIGHLIGHT CONTENT

Mission: Impossible วัดความต่างGhost Protocol Vs Rogue Nation

  • 12,756
  • 29 ก.ค. 2015

Mission: Impossible วัดความต่าง
Ghost Protocol Vs Rogue Nation กับภารกิจเป็นไปไม่ได้? 

 

 

Mission: Impossible คือสิ่งที่ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ทำมาตลอดนับแต่งานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสองทศวรรษก่อน เมื่อต้องสร้าง Mission: Impossible ภาคใหม่ออกมาแต่ละเรื่อง ทางทีมผู้สร้างซึ่งนำทีมโดยดารานำของหนังผู้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างด้วยอย่าง ทอม ครูซ ได้สรรหาวิธีที่จะสร้างความมันส์ได้เทียบเท่า หรือเกินกว่าความคาดหวังของคนดู ซึ่งในแต่ละภาค วิธีการก็จะแตกต่างกันออกไป กับการเริ่มต้นด้วยการเป็นปรากฏการณ์ในวงการภาพยนตร์ในยุค 1960 ภาพยนตร์เรื่อง Mission: Impossible ได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์แห่งศตวรรษที่ 21 เป็นปรากฏการณ์ในงานสร้างภาพยนตร์ที่ผลักดันขีดจำกัดออกไป เป็นการผสมผสานเรื่องราวดราม่าของงานสายลับปะทะสายลับ เข้ากับการสรรสร้างฉากแอ็กชั่นจนกลายเป็นตำนาน 

Mission: Impossible เวลาหมดแล้ว อีธาน ฮันท์ ตัวละครชื่อดังที่ ครูซ รับบทอยู่ พบตัวเองต้องเผชิญกับอันตรายแบบนันสต็อป ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ต้องทะยานสูง ต้องผ่านสถานการณ์ที่ไม่ปรานีใครครั้งแล้วครั้งเล่า สถานการณ์ที่ฮันท์ต้องเจอมีความล่อแหลมในทุกระดับ เมื่อไอเอ็มเอฟถูกสลายทีม ซีไอเอก็ไม่ไว้ใจเขา ตอนนี้ ฮันท์ค้นพบองค์กรลับที่มีพลังสายลับที่พร้อมจะทลายทุกชาติที่องค์กรนี้เล็งเป็นเป้าหมาย คนเหล่านี้ต้องการให้เขาเข้าร่วมภารกิจ ไม่งั้นเขาจะต้องตาย สุดท้าย ฮันท์ต้องทดสอบความภักดีของทีมของเขา ความอดทนของตัวเขาเอง และเป้าหมายของสายลับลึกลับเจ้าเสน่ห์ที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้อย่าง อิลซ่า ฟอสต์  

 

 

สำหรับครูซ การรับบท ฮันท์ เป็นครั้งที่ 5 และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย คือโอกาสที่เขาจะได้เห็นว่าเขาจะสามารถพาตัวละครตัวนี้ไปได้ไกลแค่ไหน รวมถึงภาพยนตร์แนวจารกรรมระดับโลกที่มีความซับซ้อนด้วย เขาชอบที่จะผลักดันขีดจำกัดออกไปด้วยภาพยนตร์ “Mission: Impossible” ตอนใหม่ในแต่ละตอน  “ในแต่ละครั้ง ผมคิดว่า  ‘ฉันเห็นมาหมดแล้ว’ และผมก็ผ่านความท้าทายด้านแอ็กชั่นทุกๆ อย่างเท่าที่ภาพยนตร์สักเรื่องจะมีได้

ภาพยนตร์ภาคต่อไปนี้จะมีความท้าทายใหม่ในทุกประเภทเพราะเราไม่เพียงแต่ผลักดันฉากแอ็กชั่นออกไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเล่าเรื่องและตัวละครด้วย” ครูซบอก “สำหรับผม ภาพยนตร์ Mission: Impossible  ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับฉากแอ็กชั่นและความตื่นเต้นหวาดเสียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าเราจะชอบองค์ประกอบเหล่านี้ก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผสมรวมทั้งฉากแอ็กชั่น เรื่องที่ชวนติดตาม และอารมณ์ขัน ผสมรวมกับประสบการณ์ที่ทำให้แทบลืมหายใจที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อคนดู มันคือการให้คนดูได้พบการผจญภัยที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุด ขณะที่ยังคงรักษาความคลาสสิกของภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ เราทำทั้งหมดนั้นใน ‘Rogue Nation’ มากกว่าเท่าที่เคยมีมา”  

 

 

ขณะที่ภาพยนตร์ภาคที่แล้ว “Ghost Protocol” เราได้เห็น ฮันท์ เปลี่ยนแปลงจากการเป็นหมาป่าผู้โดดเดี่ยว กลายมาเป็นผู้นำทีม บัดนี้ เขาต้องลับฝีมือในการเป็นผู้นำของเขา  ฮันท์ต้องป้องกันทีมไอเอ็มเอฟจากการต่อสู้ ขณะที่เขาพยายามจะปกป้องโลกให้พ้นจากเดอะ ซินดิเคท ครูซเล่าว่า “ภาพยนตร์ภาคนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความซับซ้อนของมิตรภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคนเหล่านี้ต้องเผชิญกับความกดดันมหาศาล คุณจะไว้ใจใคร และไม่ควรไว้ใจใคร ใครจะคอยอยู่ช่วยเหลือคุณเมื่อทุกอย่างล่มสลาย ใครจะลุกขึ้นสู้กับปัญหา และพวกเขาจะทำงานด้วยกันอย่างไรเพื่อทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ผมคิดว่า ‘Rogue Nation’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นหาแง่มุมใกล้ชิดของการทำงานเป็นทีมอยางแท้จริง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจที่ชั่วร้ายจริงๆ”  

อารมณ์ขันมีให้เห็นมากขึ้นใน “Rogue Nation” ผู้อำนวยการสร้าง เดวิด เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่ง ซีอีโอ ของสกายแดนซ์ บริษัทที่เคยอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Ghost Protocol”  บอก  “ผมคิดว่าหนึ่งในเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้กับคนดู ก็คือ มันอัดแน่นไปด้วยความสนุกและอารมณ์ขันมากแค่ไหน คุณจะได้หัวเราะเต็มที่หลายฉากด้วยกัน นอกจากอารมณ์ขันแล้ว ยังมีเรื่องของความเฉลียวฉลาด และปฏิกิริยาของตัวละคร แน่นอน ต้องมีทั้งความตึงเครียดและเดิมพันสูง ภาพยนตร์เรื่องนี้เดินหน้าไปไกลที่สุดเพื่อสร้างฉากแอ็กชั่นสุดมันส์ ทำให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ให้ความบันเทิงสูงสุดกับคนดูทุกกลุ่ม”  

 

 

Rogue Nation” ยังให้ อีธาน ทุ่มเทและอุทิศตัวให้กับการลดทอนอำนาจในการทำร้ายล้างของฝ่ายผู้ร้ายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเติบโตขึ้นทั้งในฐานะบุคคลและในฐานะเจ้าหน้าที่ “อีธานเติบโตขึ้น” ครูซตั้งข้อสังเกต “เขากำลังเรียนรู้ที่จะฟังทุกคน ขณะที่ยังคงเดินตามสัญชาตญาณของเขา ผมคิดว่าเขาคืบหน้าไปมากในแง่ของการเข้าใจผู้คนในแบบที่เขาเป็นจริงๆ ซึ่งรวมถึงตัวเขาเองด้วย ผมมักจะมองว่าเขาเป็นคนที่มีทักษะฝีมือสูง เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วว่องไว และเป็นคนที่จะไม่ยอมหยุดในการตามล่าสิ่งที่เขาเชื่อไปจนถึงที่สุด แต่เขาไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ เขายังเป็นมนุษย์ปุถุชนอยู่”  

 

 Mission: Impossible – Rogue Nation
หนังสุดระห่ำที่จะกลับมาสร้างความระทึก
เข้าฉายอย่างเป็นทางการ  29 กรกฎาคมนี้ รอบ  3 ทุ่มเป็นต้นไป   
ซื้อตั๋วและเช็ครอบฉายที่ >>>> http://www.majorcineplex.com/movie/mission-impossible-rogue-nation

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง