HIGHLIGHT CONTENT

7ปรัชญา แฝงเรียนรู้จากดู ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

  • 50,068
  • 04 ก.ย. 2015

7ปรัชญา แฝงเรียนรู้จากดู ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ
ได้อะไรกลับมาบ้าง 

 

 

ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ผลงานล่าสุดของ GTH โดย เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับสายอินดี้ที่คว้ารางวัลมาแล้วหลายเวทีทั้งในและต่างประเทศ หลังจากที่หนังเข้าฉายมีกระแสตอบรับออกมาในหลายทาง บางคนก็ชอบมาก แต่บางคนก็ยังรู้สึกไม่อินกับหนังเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะยังติดภาพหนังสไตล์เดิมของ GTH ที่เน้นความฟีลกู๊ด ตลก โรแมนติก แต่สำหรับเรื่องนี้ เรียกได้ว่ามีสิ่งเหล่านั้นมาเป็นส่วนเสริม แต่แก่นหลักของหนัง มันคือเรื่องราวของชีวิตจริง มากกว่า หนังเปิดโอกาสให้เราได้เดินไปพร้อมกับตัวละคร สำรวจตัวเอง ตั้งคำถาม และหาคำตอบไปพร้อมกัน ซึ่งสิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ แต่ละคนก็จะได้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เคยผ่านพบมา ทั้งนี้เราได้สรุปบทเรียนที่ได้เรียนรู้จาก ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

 

ร่างกายมีขีดจำกัด จะรอให้มันพังก่อนหรือ? ถึงจะใส่ใจ

ฟรีแลนซ์ สะท้อนภาพให้เห็นภาพคนที่ทำงานหนักจนลืมใส่ใจสุขภาพ อดหลับ อดนอนนำไปสู่สุขภาพที่เสียจนร่างกายพัง แม้จะมีการส่งสัญญาณจากทางร่างกายแต่ก็ยังดื้อดึงและไม่สนใจตัวเอง จนกระทั่งระบบมันน็อคไป ประโยคหนึ่งเกี่ยวกับขีดจำกัดของร่างกายที่ชอบมาก คือ ฉากที่หมออิมทำหน้าซีเรียสแล้วพูดว่า “นี่ร่างกายมันกำลังจะเล่นคุณแล้วนะ ข้างนอกยังเป็นแบบนี้ แล้วข้างในมันจะเน่าขนาดไหน? ” ซึ่งมันทำให้เราที่เป็นคนดูหันกลับมามองว่า เรามักมองข้ามสิ่งใกล้ตัว ลืมดูแลตัวเองคิดว่า “เดี๋ยว” ค่อยทำก็ได้ และไม่จริงจังกับมันสักที

 

 

สุดโต่งไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่ดี จงเดินทางสายกลาง

หนังสะท้อนปรัชญาความสุดโต่งของมนุษย์ ผ่านการทำงานหนักของยุ่น (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เขาทำงานแบบสุดโต่ง หามรุ่ง หามค่ำ จนส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งบางคนอาจจะคิดแบบเดียวกับยุ่น คือ คิดว่าจะทำอะไรแล้ว ทำไปให้มันสุดทางไปเลยมันน่าจะดี แต่เอาเข้าจริง บางอย่างไม่จำเป็นต้องสุดขนาดนั้น เลือกทำแต่พอดี ก็ได้ผลลัพธ์ออกมาที่ดีได้เช่นเดียวกัน

 

ความสุขคืออะไร คำถามใหญ่ที่ต้องหาคำตอบ

​ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ  มีการแฝงประเด็นความหมายของคำว่า “ความสุข” ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ความสุขของยุ่นคือเขาคิดว่า ชีวิตคืองานและการได้ทำงานคือความสุข สิ่งบันเทิงและการเที่ยวมันเป็นเรื่องเสียเวลามาก ในขณะที่ความสุขของเจ๋ คือการได้อยู่กับคนที่รัก ความสุขของหมออิมอาจจะเป็นการได้เห็นคนไข้หายดี...หนังสะท้อนให้เห็นแง่มุมความสุขในรูปแบบต่างๆและย้อนกลับมาถามคนดูว่า ความสุขของเราคืออะไรกันแน่ ? ประโยคที่ชอบมากเกี่ยวกับประเด็นนี้คือฉากที่ยุ่นบอกกับหมออิมว่า “บางอย่างถ้ามันกินแล้วไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าทำให้มีความสุข มันก็โอเคนะ”

 

ลดทิฐิ ปล่อยวาง  ชีวิตมีขึ้นมีลง

ยุ่นเป็นกราฟฟิคมือฉมังที่คนในวงการรู้ดีว่าฝีมือเขาเนี๊ยบ งานละเอียด ตรงต่อเวลามีความรับผิดชอบกับงานสูง จึงทำให้ผลงานของยุ่นเป็นที่ยอมรับและเป็นใบการันตีมาตรฐานให้กับตัวของเขาเอง จนทำให้ได้งานใหญ่ของแบรนด์ดัง สิ่งนี้เปรียบเหมือนว่ายุ่นได้ขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดของวงการแล้ว แต่ ในขณะที่ยุ่นกำลังประสบปัญหา ในวงการกราฟฟิคก็มีน้องใหม่ไฟแรงที่กำลังเดินตามรอยยุ่นและประสบความสำเร็จ ขึ้นมาแทนที่ สิ่งที่ยุ่นพอจะทำได้คือการลดทิฐิ การปล่อยวางกับสิ่งที่ขึ้นและยอมรับว่า ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ฉากนี้เล่าผ่านการคอมเมนท์เฟซบุ๊คของยุ่นกับเจิด ในคืนข้ามปี

 

งานไม่ใช่ทุกอย่าง..คุณตายเขาหาคนมาทำใหม่ได้

งานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เป็นเรื่องจริงที่เล่าชีวิตของยุ่น เขาเป็นภาพตัวแทนของมนุษย์ออฟฟิศที่ทุ่มเทเพื่องานและจัดลำดับความสำคัญไว้อันดับหนึ่งเสมอ จนลืมว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการใช้ชีวิต และมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอาจจะทำหายไป หากมัวแต่สนใจกับงาน เช่น ยุ่น กลายเป็นว่าคนในชีวิตของเขามีเพียงพนักงานเซเว่น เจ๋ เพื่อนร่วมงาน หมออิม และ แม่ มีแค่นี้ที่เค้าพอจะนึกได้ ส่วนคนอื่นไม่สำคัญ..หรืออาจะเป็นเพราะเขาไม่ได้เข้าสังคมสร้างความสัมพันธ์ ไม่ได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมควรจะทำ ชีวิตที่ดูเหมือนจะโดดเดี่ยวแม้ในยามใกล้ตายก็ไม่มีใคร มันช่างเป็นสภาพที่ไม่น่าดูเลย และงานที่เราทุ่มเท  หากเราเป็นอะไรไปยังไงก็เขาก็หาคนมาทำต่อได้ ไม่ต้องทุ่มเทชนิดถวายกาย ถวายใจขนาดนั้นหรอก...ใช้ชีวิตบ้างเถอะ!!

 

 

ชีวิตดีไซน์ได้ (ไม่) เสมอไป

ในตอนท้ายของเรื่อง ฟรีแลนซ์ สะท้อนให้เห็นจุดจบของชีวิตที่ใครหลายๆคนเคยวาดฝันไว้ (แม้จะไม่ใช่วันที่อยากให้มาถึงก็ตาม) วาระสุดท้ายของชีวิตของเราจะต้องไม่มีคนเศร้า จะมีใครมางานบ้าง ธีมงานเป็นแบบไหน แต่เอาเข้าจริงพอถึงจุดนั้นเราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เห็นเลยว่า มันจะออกมาเป็นแบบนั้น แม้ตอนมีชีวิต เราจะดีไซน์ชีวิตออกแบบให้มันเป็นไปตามกำลังทรัพย์หรือตามยถากรรม แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ออกแบบไม่ได้เลย นั่นคือความตายและวันแห่งการจากลา

 

ธรรมชาติเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ

คนเราควรจะมีช่วงเวลาให้พักผ่อน..ไม่ใช่พักกายแค่เอนหลับเท่านั้น แต่ยังหมายถึงพักผ่อนทางใจด้วย การปลดปล่อย การไม่ต้องคิดอะไร ให้สมองมันโล่ง ปล่อยให้ความว่างเปล่าเข้ามาในหัวบ้าง ทอดอารมณ์และดื่มด่ำไปกับความงดงามของธรรมชาติ ยาอาจสมานแผลและซ่อมแซมร่างกายที่ผุพังได้ แต่สำหรับใจที่เหนื่อยล้าล่ะ อะไรจะมาเป็นกำลังเสริมแรงให้มัน บางครั้งเราอาจจะมองว่ามันไม่จำเป็น แต่เชื่อเถอะว่า ธรรมชาติมันเยียวยาใจของเราได้

 

 

อย่าพลาดไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของหนังอินดี้ของค่าย GTH 
ใน ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ใกล้บ้านคุณ 
เช็ครอบหนังและซื้อตั๋วได้แล้วที่นี่ >>> http://www.majorcineplex.com/movie/freelance

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง