เจาะตำนานโคตรไอ้เข้เมืองไทย ไอ้ด่าง บางมุด ก่อนหนีตายในหนังจระเข้โหด Black Water: Abyss

นี่คือประสบการณ์การดูหนัง
ที่จะทำให้คุณเข้าใกล้ “ความตาย” ที่สุดในชีวิต!!! ใน
#BlackWaterAbyss
#กระชากนรกโคตรไอ้เข้ จากผู้สร้าง 47 Meters Down...
ระวังขาของคุณไว้ให้ดี 12 สิงหาคมนี้ เจอกันที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

ก่อนที่เราจะไปหนีตายกับจระเข้ตัวใหม่ใน  Black Water: Abyss 
วันนี้เราขอพามาเปิดตำนานจระเข้ไทยสุดโหดกันบ้าง

 

เรื่องราวของไอ้ด่าง บางมุด โคตรจระเข้ในตำนานของไทย ปรากฎอยู่ในหนังสือกรุข่าวดังที่รวบรวมข่าวตั้งแต่  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500-2519 โดยเหตุการณ์ในช่วงเดือนตุลาคม 2507 ที่ คลองบางมุด จังหวัดชุมพร ได้เกิดเหตุจระเข้ขนาดใหญ่ออกอาละวาด โดยชาวบ้านได้ให้สมญานามของมันว่า ไอ้ด่าง บางมุด มันออกล่าคนเป็นอาหาร ไล่กัดคนที่อาบน้ำอยู่ริมคลองบางมุดซึ่งเป็นลำน้ำสายใหญ่ที่เชื่อมกับทางออกแม่น้ำสำคัญ ทั้ง แม่น้ำชุมพร, แม่น้ำตะโก และ แม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

คำอธิบายถึงลักษณะของไอ้ด่าง บางมุด ชาวบ้านกล่าวว่า มันเป็นจระเข้ขนาด 4 วาเศษ เฉพาะหัวยาว 2 ศอก ลำตัวใหญ่กว่าถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่บริเวณคอมีรอยด่างสีขาว ลำตัวสีดำสนิท สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นจระเข้พันธุ์ทองหลางที่สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งน้ำเค็มและน้ำกร่อย มีลักษณะดุร้าย และเคลื่อนไหวรวดเร็ว  

 

ต่อมาได้มีการตั้งค่าหัวของไอ้ด่าง บางมุด สูงถึงแปดพันบาท มีนักล่าจระเข้จำนวนมาก ทั้งแบบอาวุธครบมือและหมอจระเข้ที่มีไสยเวทย์ ออกตามล่ามันแต่ก็ไม่มีใครสามารถจับมันได้  จนกระทั่งวันที่ 20 พฤศจิกายน 2507 สิบเอกจำนง พิมาน พร้อมพวกได้ตามล่าไอ้ด่างจนรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนและใช้ระเบิดหย่อนลงไป จนกระดูกสันหลังของมันหัก จากนั้นได้ล่ามซากของมันไว้กับเรือและแบกมาเพื่อผ่าท้องหาซากคน ภายในมีกะโหลกมนุษย์อยู่ 2 หัว  ต่อมาได้มีการขายซากไอ้ด่าง และมีการนำซากของมันมาโชว์ตัวในกรุงเทพฯ ด้วย