แอคชั่นกันแบบมาราธอนต่อเนื่อง น้อยกับอนันดาต่อยกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าวันนี้จนไปถึง 6 โมงเช้าอีกวันหนึ่งจนเลยไปถึงเกือบเที่ยง
“มันเป็นโปรเจกต์ที่เราภูมิใจนำเสนอเราทำสิ่งที่ยากเกือบทุกสิ่งเลยสำหรับหนังไทยเรื่องหนึ่งมันถึงกินเวลามาหลายปีมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฉากเรื่องของเอฟเฟกต์เรื่องของการดีไซน์คิวแอคชั่นเพราะฉากแอคชั่นหรือสิ่งที่เราคิดมันยากอยู่แล้วแต่ต้องบอกว่าเราโชคดีมากๆที่เราได้ทีมนักแสดงทีมงานที่ทุกคนต่างให้ใจทุ่มชีวิตฝ่าฟันกันผมว่าโปรเจกต์นี้มันเหมือนหน่วยทหารที่พอเสร็จแล้วก็คงรักกันไปอีกนานเราผ่านการถ่ายทำฉากแอคชั่นกันแบบมาราธอนต่อเนื่อง 24-36 ชั่วโมงก็เคยมาแล้วพี่น้อยกับอนันดานี่ต่อยกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าวันนี้จนไปถึง 6 โมงเช้าอีกวันหนึ่งจนถึงเกือบเที่ยงแอคชั่นทั้งวัน
2 คนก็ลุยกันมาแล้วนับถือสปิริตมากเรามีดีไซน์ที่ฉูดฉาดเรามีประเด็นในสไตล์ของหนังแบบโขมที่รุนแรงพอที่จะกระทบความรู้สึกคนในทุกๆด้านนะครับผมว่ามันก็น่าจะเป็นเวอร์ชั่นเข้มข้นแล้วก็น่าจะเป็นหนังที่เราอาจจะเคยเจอกับความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่สมัย 2499 อันธพาลครองเมืองซึ่งหนังเรื่องขุนพันธ์ก็ยังมีกลิ่นอายแบบนั้นอยู่เราอยากให้ความรู้สึกของหนังไทยแบบนั้นกลับมาน่ะ”
“เราทำการบ้านกันสูงมากสำหรับเรื่องนี้ครับโดยเฉพาะบทซึ่งเป็นแก่นหลักของเรื่องเขียนบทเป็นปีเราต้องอาศัยการทำงานที่ผ่านการประชุมแล้วประชุมอีกเราว่ามันพิสูจน์อะไรหลายๆอย่างในตัวเราและก็ทีมงานเยอะมากโปรเจกต์นี้มันใหญ่โตมโหฬารการถ่ายทำมีกระบวนการขั้นตอนที่กินเวลายาวนานมากมันคือความท้าทายมันพิสูจน์ศรัทธาเหมือนขุนพันธ์นะครับที่ท่านตะลุยท่านบุกขนาดไหนในชีวิตกว่าจะปราบโจรสักคนหนึ่ง
เราลงไปที่บ้านท่านแล้วก็ไปไหว้ท่านไปขอหลายๆสิ่งหลายๆอย่างว่าดลบันดาลใจให้เราทำสิ่งนี้ให้ดีที่สุดและไม่เลิกที่จะทำไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรก็แล้วแต่เราจะมีรูปขุนพันธ์อยู่ข้างโต๊ะทำงานมีดาบแดงอันหนึ่งเราก็จะหันไปมองตลอดถ้ายังมีเวลาเราจะทำให้มันดีที่สุดไม่มีนักแสดงหรือทีมงานคนไหนถอดใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลย”