บทสัมภาษณ์ “ป๊อปปี้-บุญยิสา จันทราราชัย” (รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2012)

เต็มที่กับบทบาทการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก ใน “คน-โลก-จิต”

บทบาท-คาแร็คเตอร์

เรื่องนี้ ป๊อปปี้ รับบทเป็น “เทียน” เป็นผู้หญิงที่เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง มีความมุ่งมั่นพยายามมาก แต่ก็มีอคติกับผู้ชายเพราะมีปมในอดีตเกี่ยวกับพ่อของตัวเอง ก็เลยไม่ค่อยถูกชะตากับผู้ชายสักเท่าไหร่ค่ะ เทียนจะเป็นนักนิติวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยกันไขคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญร่วมกับพระเอก ซึ่งคดีนี้มันก็จะเชื่อมโยงบางสิ่งบางอย่างให้สี่ตัวละครหลักของเรื่องต้องเข้าไปพัวพันด้วยค่ะ แต่เบื้องหลังมันมีอะไรให้น่าติดตามมากกว่านั้นแน่นอนค่ะ รวมถึงบทสรุปเรื่องเกี่ยวกับสภาพจิตในของคนเราตามชื่อเรื่องเลย “คน-โลก-จิต” หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะสะท้อนให้ย้อนมองดูตัวเราว่าเราเป็นหนึ่งในคนที่มีสภาวะทางจิตหรือเปล่าค่ะ

การเตรียมตัวก่อนที่จะเล่นเรื่องนี้

ก็ได้ทำการเวิร์คช้อปกันค่ะกับนักแสดงในเรื่องทั้ง 4 คนก็จะมี พี่บีม ศรัณยู, แบงค์ อาทิตย์ แล้วก็ น้องแม็กกี้ อาภา ค่ะ และก็จะมีไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อยค่ะ หม่อมน้อยก็สอนหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ อาทิ ในการแสดงไม่ใช่แค่การท่องบท ต้องคิดเหมือนตัวละคร หายใจเหมือนตัวละคร ซึ่งจะทำออกมาได้มันอยู่ที่ความคิดและก็ความเชื่อค่ะ ถ้าเรามีความเชื่อเราก็จะถ่ายทอดตัวละครออกมาให้สมจริงกับตัวละครมากขึ้น ซึ่งช่วยได้เยอะมากในการถ่ายทำเลยค่ะ ในขณะที่เราเล่น ถ้าเผื่อเราจำบทไม่ได้ แต่อารมณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาแล้วถ้าเรามีความคิดแบบตัวละครเราก็จะสามารถตอบออกไปได้เหมือนตัวละครเลยค่ะ อีกอย่างก็คือ ป๊อปปี้ได้มีโอกาสไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ด้วยค่ะ เป็นสถาบัน CSI ของประเทศไทยเลยค่ะ ก็ไปดูการใช้อุปกรณ์และขั้นตอนการดำเนินงาน เค้าให้วิดีโอมาเพื่อดูว่าขั้นตอนตั้งแต่ไปถึง สถานที่ เหตุการณ์เป็นยังไง สาธิตการใช้อุปกรณ์ และรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับหน้าที่นี้ค่ะ

ความยากง่ายในการแสดงหนังเรื่องนี้

ยากค่ะ เพราะตัวละครค่อนข้างที่จะโตกว่าป๊อปปี้ ทั้งบุคลิก คำพูด น้ำเสียงในการพูดก็ค่อนข้างเปลี่ยนค่ะ แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ค่ะ ก็ต้องตั้งสมาธิค่ะ เราไม่ใช่ตัวเรานะเราเป็นเทียนนะ การคิด การเดิน แววตา การกระทำต่าง ๆ เราต้องทำยังไง ก็ต้องมีสมาธิก่อนการแสดงมาก ๆ ค่ะ

ความรู้สึกแรกที่ได้เข้าฉาก

รู้สึกตื่นเต้นค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วเคยผ่านผลงานที่เป็น MV หรือโฆษณามาบ้างแล้ว มันไม่เหมือนกันเลยทั้งโปรดักชั่นทีมงาน และก็เพื่อนร่วมงานด้วยค่ะ นี่เป็นหนังเรื่องแรกของป๊อปปี้ มันเป็นโปรดักชั่นที่ใหญ่กว่ากันมาก ก็รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ

ชอบประทับใจฉากไหนเป็นพิเศษไหม

จริง ๆ ประทับใจทุกฉากนะคะ แต่ฉากที่ชอบและอินมากเลยก็คือ ฉากคุณพ่อค่ะ เพราะเราเพิ่งรู้ความจริงว่าคุณพ่อไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังไว้ ทำให้รู้สึกผิดหวัง เป็นฉากที่ไม่มีคำพูด เราสื่อออกมาทางหน้าตา รู้สึกอินจนร้องไห้ออกมาเอง รู้สึกจริง ๆ ก็ยากเลยค่ะ แต่จริง ๆ ก็ยากทุกฉากทั้งเรื่องเลยค่ะ อีกฉากก็เป็นฉากยิงปืน ป๊อปปี้ไม่เคยจับปืนมาก่อน เรื่องนี้ก็จะมีฉากแอ็คชั่นด้วยค่ะ ก็ต้องมีไปเรียนไปฝึกมานิดหน่อยก่อนเข้าฉากค่ะ ก็จะมีเอฟเฟ็กต์ผิดพลาดบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ก็แค่จะตกใจนิดหน่อยค่ะ

การร่วมงานกับเพื่อน ๆ นักแสดง

ก็ทุกคนน่ารักกันดีค่ะ เพราะว่าเราได้ไปเวิร์คช็อปกันก่อน ก็จะทำให้สนิทสนมกันทุกคน กับแบงค์ป๊อปปี้เองจะรู้จักอยู่ก่อนแล้วค่ะก็จะไม่มีปัญหาอะไร กับน้องแม็กกี้ก็น่ารักค่ะและก็เล่นเก่งมากค่ะ กับพี่บีมก็เป็นพี่ที่น่ารักค่ะ คอยสอนโน่นนี่ ไม่มีกดดันเราด้วยค่ะ

การร่วมงานกับพี่อุ๋ย

การทำงานกับ พี่อุ๋ย นนทรีย์ พี่เค้าเป็นมืออาชีพมากค่ะ ทุกอย่างเป็นขั้นตอนเป็นมาตรฐาน หนูได้อะไรหลาย ๆ อย่างจากพี่อุ๋ย หนูได้การแอ็คติ้งในหลาย ๆ มิติ บางทีเราแสดงออกมิติเดียวหรือสองมิติมันไม่พอ อาจจะส่งความรู้สึกไปแล้วย้อนกลับมา ตรงนี้คือสิ่งที่เราไม่เคยรู้ แต่ก็ได้รู้จากพี่อุ๋ยนี่แหละค่ะ ก็เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของป๊อปปี้ที่ได้ประสบการณ์หลายอย่างในชีวิตหลาย ๆ ด้านเลย สามารถนำไปใช้ในอนาคตเป็นบทเรียนหรืออะไรหลาย ๆ อย่างได้ค่ะ

ความน่าสนใจโดยรวมของหนัง

หนังเรื่องนี้เป็นแนวที่หาได้น้อยมากสำหรับหนังไทยเรา ซึ่งแตกต่างจากแนวอื่น ๆ เลยก็อยากให้ทุกคนติดตามว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นยังไง มันได้ทั้งความสนุกและสาระด้วยค่ะ ทั้งพี่อุ๋ยผู้กำกับ ทีมงานนักแสดงก็ทำงานด้วยกันอย่างเต็มที่ และนี่ก็เป็นหนังในรอบเกือบ 5 ปีของพี่อุ๋ย แถมยังสร้างจากบทที่ได้รางวัลด้วย ป๊อปปี้ แบงค์ แม็กกี้ และพี่บีมก็ตั้งใจ ทุ่มเทเล่นกันอย่างเต็มที่ ดูเรื่องนี้แล้วก็จะได้มองย้อนมาถึงตัวเองด้วยว่าแท้จริงแล้วเราเป็นอย่างไรค่ะ