1,218
14 ธ.ค. 2020
หมดสิ้นความไร้เดียงสา!
ไดอาน่า พริ๊นซ์เดินทางสู่
ยุคมหัศจรรย์ใน Wonder Woman 1984
เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ Wonder Woman ภาคแรกได้รับความนิยม ก็คือการเป็นเรื่องราว Coming of Age เรื่องราวการเดินทางของ ไดอาน่า พริ๊นซ์ ผู้ไร้เดียงสา ที่มีเป้าหมายมุ่งมั่นในการกำจัดความชั่วร้ายให้หมดไปจากโลก จนเธอได้เดินทางไปพบกับความจริงว่า อุดมคติของความดีและความเลวร้าย นั้นมันซับซ้อนมากกว่าที่เธอคิด เรื่องราวจบลงที่ไดอาน่า ได้รับบทเรียนสำคัญที่จะช่วยให้เธอเติบโตและใช้ชีวิตในโลกมนุษย์นี้ได้ต่อไป กลายเป็นเชื้อไฟที่จุดปะทุพาไดอาน่าเดินหน้าสู่ยุคสมัยใหม่ใน Wonder Woman 1984
“ไดอาน่า เธอใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้มาเป็นเวลานานมากแล้วค่ะ และเธอไม่มีความไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้ว ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงโดดเดี่ยวค่ะ” กัล กาโดต์เล่าถึงพัฒนาการตัวละครของเธอจากภาพยนตร์ภาคแรก ต่อเนื่องมาจนถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ เราคงได้เห็นไปแล้วในภาพยนตร์เรื่องนั้นว่าไดอาน่า ได้สูญเสีย สตีฟ เทรเวอร์ รักแรกของเธอได้ มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำใจได้ง่าย ๆ เลย
กัล กาโดต์เล่าต่อไปว่า “มันยากสำหรับเธอค่ะที่จะปล่อยวางอดีตลงไป เธอเลยหันมาโฟกัสไปที่การทำงานแทน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงรู้สึกถึงมันได้เสมอ เธอผ่านช่วงเวลาและได้เห็นโลกวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ รอบตัว จนเธอเริ่มรู้สึกแปลกแยกขึ้นไปทุกที แม้ในตอนที่เธอเป็น Wonder Woman เธอก็ยังคงทำงานในเงามืด นั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉันมากเลยล่ะค่ะที่ได้แสดงเป็นตัวละครตัวนี้”
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ได้กลับมาแสดงบทนี้อีกครั้ง เพราะเธอเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนในหลายชั้นมาก และสามารถให้แรงบันดาลใจได้ในเวลาเดียวกัน เราจะได้เห็นเธอผ่านสถานการณ์บางสิ่งบางอย่างที่แสนลึกซึ้ง และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในหนังเรื่องนี้ค่ะ” นักแสดงหญิงคนนี้กล่าวปิดท้าย
ในกรุงวอร์ชิงตัน ดีซี ช่วงปี 1984 ไดอาน่าใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางเหล่ามนุษย์ และทำงานในฐานะนักมานุษยวิทยา และนักโบราณคดี รวมถึงดูแลโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน เธอไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกของซูเปอร์ฮีโร่อีกต่อไป เธอพร้อมแล้วที่จะนำเสนอพลังความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อปราบปรามเหล่าร้าย แต่ก็เก็บตัวตนแท้จริงไว้เป็นความลับด้วย ความขัดแย้งนี้จะถูกนำเสนอออกมาอย่างไร ต้องติดตามใน Wonder Woman 1984 กำหนดฉาย 17 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์
