HIGHLIGHT CONTENT

10 ปีฝันเป็นจริง สหมงคลฟิล์มไฟเขียว ทำ “ชัมบาลา” “ปี๊ด-ปัญจพงศ์” ได้ “ซันนี่ประกบอนันดา” ทำหนังไทยตะลุยถ่ายทิเบต

  • 7,655
  • 21 พฤษภาคม 2012

10 ปีฝันเป็นจริง สหมงคลฟิล์มไฟเขียว ทำ “ชัมบาลา” “ปี๊ด-ปัญจพงศ์” ได้ “ซันนี่ประกบอนันดา” ทำหนังไทยตะลุยถ่ายทิเบต

ไม่ใช่ทุกคนที่มีความฝันแล้วจะสามารถแปรเปลี่ยนความฝันจากอากาศธาตุ บ่มเพาะประสบการณ์หลอมรวมความคิด จินตนาการออกมาเป็นตัวหนังสือและเรื่องราว สานต่อความฝันให้กลายเป็นความจริง ได้ แต่สำหรับ ปี๊ด-ปัญจพงศ์ คงคาน้อย ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ โฆษณา มิวสิควิดีโอมาทั้งชีวิต ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่เขากำกับโดยได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนบทจากการเดินทางไปทิเบตเพื่อถ่ายทำรายการท่องเที่ยวทางโทรทัศน์เมื่อหลายปีก่อน (“แดนบีมเดอะซีรี่ส์”) กำลังจะปรากฎสู่สายตาทุกคนแล้ว ถึงแม้จะใช้เวลานานนับ 10 ปีก็ตาม หลังจากผ่านอุปสรรคความยากลำบากนานัปการ เขียนบทอยู่ร่วมปี ผ่านการนำเสนอโปรเจ็คต์หาสตูดิโอที่จะอนุมัติออกทุนสร้างหนังโรแมนติคดราม่าเรื่องราวการเดินทางของ 2 พี่น้องที่มีความรักเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งต้องเดินทางไปถ่ายทำไกลถึงดินแดนบนหลังคาโลกอย่างทิเบต รวมไปถึงหา 2 นักแสดงชายระดับฝีมือที่จะมาร่วมผจญฝ่าความยากลำบากในการเดินทางไปใช้ชีวิตในโลเกชั่นสุดโหด เผชิญกับสภาพอากาศที่มีตั้งแต่หนาวสุดขั้วและร้อนสุดขีด จนในที่สุด “ชัมบาลา” ภาพยนตร์ที่ใช้เวลาในการสร้างถึง3ปีก็โดยได้ไฟเขียวจาก เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หัวเรือใหญ่สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลออกทุนสร้าง และได้ 2 นักแสดงชายระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ อนันดา เอเวอริงแฮม ประกบบทบาทคู่กันเป็นครั้งแรก “ก็เกือบจะสิบปีแล้ว มีโอกาสได้ไปทิเบต เพื่อทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับท่องเที่ยว (แดนบีมเดอะซีรี่ส์) ก็รู้สึกประทับใจ มันมีประเทศแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ มันเป็นไปได้ยังไง ประเทศที่หล่อหลอมด้วยความศรัทธา ชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนยันหลับ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เราก็รู้สึกว่ามัน IMPACT กับจิตใจเรามาก ทำให้ เราอยากทำเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้ทำ เพราะทิเบต เป็นประเทศที่ไกลมาก มันยากมาก แล้วยิ่งไปทำหนังด้วย ใครจะออกทุน ใครจะยกกองไปกับเรา ใครจะไปทนลำบากกับเรา มันจะเป็นไปได้เหรอ เหมือนวันหนึ่งที่ผมเคยพูดเล่นๆ กับตัวเองว่าแบรดพิตต์ทำ 7 years in Tibet เป็นฮอลลีวู้ดแต่ไปถ่ายที่ทิเบตมันก็เป็นในแบบของเขา แล้วถ้าวันหนึ่งเราไปถ่ายทิเบตเราอาจสู้เขาไม่ได้เรื่องงบประมาณหลายๆ อย่าง แต่เราสู้เขาได้เรื่องความคิด เรื่องของมุมมอง ซึ่งผมคิดว่าคนไทยไม่ได้แพ้ใคร จนวันหนึ่งเราได้ทำหนังที่ไปถ่ายถึงทิเบตในแบบของเรานั่นคือ “ชัมบาลา” ซึ่งตั้งแต่ทำภาพยนตร์เรื่องนี้มาเราใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบ 3 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการทำหนังเรื่องหนึ่งที่ใช้เวลา3ปีสำหรับหนังไทย อย่างแรกผมต้องขอบคุณคุณเสี่ย เสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประธาน บ.สหมงคลฟิล์ม) นะครับ ขอบคุณทีมงานสหมงคลฟิล์มทุกคนที่ไว้ใจให้ผมทำ และอดทนรอกับมันยาวนานมากๆ จนทีมงานทุกคนคิดเหมือนกันคือเมื่อไหร่มันจะได้เห็น จนถึงวันนี้ผมฝันมาไม่ต่ำกว่า10ปีเพื่อที่จะรอทำให้มันสำเร็จ เพราะฉะนั้นทุกวันผมจะรู้สึกเสมอว่าจริงเหรอ มันจะได้ฉายจริงเหรอ จนมาวันนี้เรากำลังจะได้เห็นแล้ว สิ่งที่ผมภูมิใจและรู้สึกดีที่สุดก็คือมันไม่ใช่หนังผม แต่เป็นหนังของพวกเราทีมงานนักแสดงทุกคน ต้องขอบคุณซันนี่ อนันดา ฝน นลินทิพย์ โอซาที่เชื่อมั่นและร่วมลำบากไปกับเรา สำหรับผมถ้าก้าวแรกมันได้ขนาดนี้ขอบอกตรงๆ ว่าผมมีความมั่นใจและภูมิใจกับชัมบาลาว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดคุณออกจากโรงแล้วมันคงกระตุกต่อมคิดอะไรของคุณได้บางอย่าง คุณคงสนุกกับเรื่องราวของมัน อิ่มเอมกับความสวยงามของบรรยากาศในประเทศทิเบต โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานของเราทุกคนพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุดอยากให้ทุกคนได้ดูกัน” รับรองว่าไม่นานเกินรอ เพราะงานนี้เสี่ยเจียงไฟเขียววางโปรแกรมฉายแล้ว 12 กรกฎาคมนี้ แน่นอน