ใครๆก็เคยอกหัก 3 หนุ่ม 1 สาว ที่จะมาถ่ายทอดโรแมนติกสุดซึ้ง ใน คน อก หัก Love H2O

ใครๆก็เคยอกหัก 3 หนุ่ม 1 สาว ที่จะมาถ่ายทอดโรแมนติกสุดซึ้ง
ในภาพยนตร์ คน อก หัก  Love H2O

 

 

ในภาพยนตร์เรื่อง คน อก หัก ประกอบด้วยเรื่องราวของตัวละคร 3 หนุ่ม 1 สาวที่เข้ามาเกี่ยวพันกันในความรักที่กำลังจะมาเยียวยาหัวใจของคนอกหักให้ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ขอนำบทความแนะนำ 4 คาแรคเตอร์จากภาพยนตร์มาให้ได้รู้จักกันว่าใครรับบทอะไรกันบ้าง 

น้ำ

เจ้าของนิตยสารเกี่ยวกับความรัก H2O สาวมั่นไฮโซที่ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องความรักเลย แถมได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องความรัก เพราะเป็นคอลัมนิสต์ตอบปัญหาความรักในนิตยสารของตัวเองด้วย แต่คู่รักที่กำลังจะแต่งงานกลับทำให้เธอกลายเป็นคนอกหักซะเอง 

 

รับบทโดย หยก - ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์

ครั้งแรกกับบทนางเอกเต็มตัวของนักแสดงสาวมากความสามารถ ที่ต้องผ่านการแคสติ้งอย่างหนักเพื่อมารับบทสาวมั่นที่ต้องกลายเป็นคนอกหัก ซึ่งคาแรกเตอร์ของน้ำเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์จริงของหยกไม่น้อย
“สิ่งที่คล้ายกันคือความเป็นผู้หญิง ที่พอไม่ได้ดั่งใจก็จะเกิดอาการฮึดฮัดขึ้นมา อยากได้อะไรที่มันดีกว่านี้ คือจะยอมแพ้ไม่ได้ ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาให้มันผ่านไปให้ได้ ออกแนวผู้หญิงขี้ประชดประชันนิดหน่อย เวลาแสดงต้องมีหลายอารมณ์ อย่างเวลาอยู่กับอีกคนหนึ่ง เราต้องกลายเป็นน้องสาวที่อ่อนหวาน หรือกับอีกคนหนึ่งเราก็ต้องวีนๆ เพราะว่าในเรื่องนี้มีการอกหักหลายแบบมาก ซึ่งบางทีสับสนมากว่ามันต้องอารมณ์ไหน ตอนเวิร์คช็อป เขาจะขุดอารมณ์เราลึกมาก ให้มันออกมาทีละนิดๆ จนมาได้ครบทั้งหมด” 

แน่นอนว่าหยกเองก็เคยเป็นคนอกหักมาก่อน การรับบทเป็นคนอกหักเธอจึงนำความรู้สึกจริงบางส่วนมาปรับใช้ในบทด้วย“หยกว่าทุกคนที่เคยอกหักก็ต้องมีความคิดที่แบบว่าฉันจะต้องหาคนที่ดีกว่าให้ได้ ก็เคยมีมุมความคิดแบบนี้บ้างเหมือนกัน การอกหักจริงๆ ก็คือความเศร้ากับการเริ่มต้นใหม่ จบตรงนั้นเสร็จปุ๊บก็ไปเริ่มต้นใหม่ คือมันจะเป็นแบบนี้ทุกคน แต่ถ้าจะไปนิยามว่า อกหักแล้วจะเป็นอย่างไร จะมีผลอย่างไรต่อไป บอกไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่เราก็เคยเจอมาทั้งสองอย่างนะก็คือเศร้าเสร็จปุ๊บ เดี๋ยวก็ไปเจออะไรใหม่ๆ สุดท้ายแล้วคนเราก็จะไปเจอสิ่งที่ดีกว่า คือเหมือนบางคนอกหัก เศร้า จมปลักแต่รู้ไหมว่าในอนาคตข้างหน้า อาจมีอะไรที่ดีกว่ารออยู่ก็ได้”   

 

ด็อก

ผู้ชายกลางๆ แต่มีดีกรีเป็นผู้กำกับรายการอาหาร เป็นเพื่อนสนิทของน้ำตั้งแต่สมัยมัธยมจนมหา’ลัย แอบชอบน้ำมาตลอด แต่ไม่เคยแสดงออกเยอะเพราะกลัวเสียเพื่อน เรียกได้ว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มรักเลย 

 

รับบทโดย โทนี่ รากแก่น

อีกหนึ่งนักแสดงมาเสน่ห์ที่เคยผ่านงานมาแล้วมากมาย กับบทบาทคนแอบรักเพื่อนที่ใกล้ตัวใครหลายคน ซึ่งเจ้าตัวสามารถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
“ด็อกจะเป็นแบบเหมือนชื่อเลยคือ อันเดอร์ด็อก คือเป็นคนยอมคน ยอมนางเอกตลอดเวลา แล้วก็เป็นคนที่เหมือนหมาเลย ว่านอนสอนง่าย ซื่อสัตย์ ยอมเป็นทาสรับใช้ ซึ่งเราก็พอเข้าใจกับตัวละครตัวนี้ได้ เพราะมันเป็นตัวละครที่เห็นได้ทั่วไป แล้วความรู้สึกของการแอบรักเพื่อนก็เคยมีอยู่แล้วในตัวของคนทุกคน รวมถึงตัวเราด้วย ตอนเด็กๆ เราก็เคยแบบมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายโดยส่วนมาก แต่ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงเนี่ย จะมีอาการแอบชอบ แอบมีความรู้สึกอยู่ทันที ก็เลยดึงความรู้สึกตรงนี้มาใช้ได้”
ในบทของด็อกถือได้ว่าเป็นตัวละครที่อกหักอย่างเห็นชัดที่สุด ซึ่งโทนี่เองก็ค่อนข้างอ่อนไหวในเรื่องการอกหักเช่นกัน เพราะเชื่อว่าความรักคือสิ่งที่ต้องเต็มที่กับมันที่สุด 
 “อกหักเป็นความรู้สึกที่ทรมานที่สุด อกหักเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ช่วงวัยก็จะบอกถึงความรุนแรงในความรู้สึกอกหักด้วย คือตอนช่วงวัยรุ่นความรู้สึกนี้มันรุนแรงสำหรับผม แก้ไม่ได้ต้องใช้เวลาอย่างเดียวเลย ซึ่งอารมณ์อกหักมันเป็นไปตามความรู้สึก อย่างผมเรียกได้ว่าถ้าอกหักก็ยอมตายได้ แต่ตายแบบแอ๊คอาร์ต คือมีความรู้สึกอยากเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนได้รับรู้ คือเราก็เต็มที่กับทุกความรักที่เราเข้ามา เพราะไม่อยากจะเสียดายทีหลังว่า เฮ้ย ทำไมตอนนั้นเราไม่ทำเต็มที่ ถ้าเกิดเต็มที่แล้วยังอกหักอีก ก็ถือได้ว่าทำเต็มที่แล้ว”  

 

โจ

เจ้าหน้าที่กงสุลชาวไทย ประจำประเทศจีน ผู้ชายอบอุ่น มีความเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจโลก แต่แฝงไปด้วยความเหงา เพราะเคยมีเบื้องหลังความรักที่ไม่ค่อยสวยงามนัก ทำให้น้ำรู้สึกได้ว่าโจมีบางอย่างที่คล้ายกัน 

 

รับบทโดย นาวิน ต้าร์ - นาวิน เยาวพลกุล

นักแสดงหนุ่มดีกรีด็อกเตอร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี กับบทคนอกหักที่เคยมีความหลังอันเจ็บปวดและได้กลับมาทำร้ายชีวิตเขา ซึ่งเจ้าตัวถึงกับยอมรับว่าคล้ายกับตัวเองในอดีต
“โจเป็นคนที่เคยผิดหวังในความรัก อกหักแบบไม่เป็นท่า แล้วมันทำให้เขากลัวในการที่จะมองหาสิ่งใหม่ อยู่กับภาพเดิมๆ วนเวียนอยู่แบบออกมาไม่ได้ จมปลักอยู่ตรงนั้น เราคงเคยได้ยินคำว่า คนเราเวลาที่อยู่กับตัวเองแล้วยังไม่มีความสุข อย่าเพิ่งไปมีความรักครั้งใหม่ โจเป็นคนแบบนั้นเลย ความจริงก็คล้ายชีวิตเราเหมือนกันนะ คือเขาทำงานอยู่ในสถานทูต แล้วก็อยู่เมืองนอกมานาน ซึ่งตัวเราเองก็มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาตั้ง 9 ปี โดยที่เราไปอยู่ในระบบ สภาพแวดล้อม และสังคมที่ไม่เหมือนเราเลย ซึ่งมันก็มีบางมุมที่เรารู้สึกว่าเหงา และอยากจะหาคนที่แบบที่เราคุยกันแล้วเข้าใจจริงๆ และโจเป็นคนที่พูดอะไรไม่ค่อยตรงกับใจ เป็นคนที่คิดเยอะมาก ซึ่งในหลายๆ ครั้งเราก็เป็นแบบนั้น คือมันมีหลายอย่างที่อยู่ในหัวของเรามากกว่าที่คนข้างนอกเข้าใจอีกเยอะ”
    
ด้วยความที่เคยผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้วมากมาย ทำให้นาวิน ต้าร์มองความรักและการอกหักอย่างที่เป็นจริงๆ 
“การอกหักเหมือนเป็นแผลที่อยู่ข้างใน มองไปหาใครก็ช่วยเราไม่ได้ ต่อให้ใครจะดีแค่ไหน ก็ช่วยเราไม่ได้จริงๆ ซึ่งเวลาเท่านั้นจะเป็นตัวแก้ไขสิ่งเหล่านี้และช่วยรักษาตัวเราเองในที่สุด คือเราเสียใครไป เราก็เสียไปตลอดชีวิต พอวันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ยังไม่เปลี่ยนไป มันเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุด และเมื่อไรที่เรายอมรับความจริง เราก็จะรู้สึกว่าเราจะไปคิดอะไรกับมันทำไม บางทีดูเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะทำ แต่ทำได้ยากมากๆ คือจริงๆ ในโลกใบนี้คนเราไม่ได้พยายามหรือตั้งใจที่จะทำร้ายกันหรอกนะ แต่การที่เราเป็นตัวของเราเอง เป็นการทำตัวเองให้ถูกทำร้ายเอง เราถูกสร้างมาให้ประกอบไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ง่ายต่อการตกหลุมของเราเอง 

โอม

เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่มีครบทั้งหน้าตาและฐานะ เคยผ่านการอกหักมาก่อน จึงทำให้เป็นคนที่เอาแต่ใจ ไม่ค่อยแคร์อะไร โดยเฉพาะเรื่องความรัก แต่เมื่อได้รู้จักกับน้ำทำให้เขารู้สึกกับความรักเปลี่ยนไป 

 

รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของพระเอกหนุ่มลูกครึ่งสุดฮอต แม้จะผ่านการแสดงมาแล้วเกือบทุกบทบาท แต่ครั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นความท้าทายใหม่ที่น่าสนใจทีเดียว
“ปกติผมไม่ค่อยได้เจอบทแบบนี้ ปกติผมจะเจอแต่แอ็คชั่น ดราม่า ครั้งนี่เลยไม่เหมือนกับทางเดิมที่ผ่านมา โอมจะเป็นตัวละครที่ค่อยๆ เฉลยความรู้สึก มันจะเก็บความอกหักไว้ ไม่มีใครเข้าถึงหรือเข้าใจได้ คือด้วยลุคของเขาจะเป็นคนอย่างนั้น แต่ว่าข้างในก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นในโลกใบนี้ที่อกหักเหมือนๆ กัน จริงๆ ก็คือผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรักไม่ต่างจากคนทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าปมในอดีตทำให้ปัจจุบันมีปัญหากับการที่จะรักใครสักคน เลยสร้างม่านอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาจึงต้องการความรักครั้งใหม่ที่พร้อม ยอมรับและเข้าใจเข้าได้”

แม้ในบทโอมจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะปิดเรื่องความรัก แต่สำหรับมุมมองส่วนตัวแล้ว อนันดาเองกลับมีมุมมองเรื่องการอกหักและความรักที่น่าคิดตามไม่น้อย 
“ผมไม่ได้เป็นคนมีปัญหาเรื่องรักใครและไม่ได้มีปัญหากับการอกหัก ผมเป็นคนแบบไม่ค่อยฟูมฟาย อกหักก็อกหัก รักก็คือรัก มันเป็นสิ่งธรรมชาติในชีวิตของคนเรา ไม่คิดว่าเราเป็นเจ้าของใครอยู่แล้ว วันหนึ่งเขาอยู่ในชีวิตเรา มีความสุข มีความรัก แต่เราก็ไม่ใช่เจ้าของเขาอยู่ดี เขาออกไปจากชีวิตเรา เขาก็เป็นเหมือนเดิมและเราก็เป็นเหมือนเดิม ถามว่าเหงาไหม คิดถึงไหม ก็เป็นเหมือนทุกคนแหละ ผมก็ไม่เคยบอกตัวเองว่า ถ้าผมอกหัก จะต้องทำอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ จะต้องแกร่ง คือแล้วแต่สถานการณ์ เหมือนในหนังเรื่องนี้คือมันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้ และทุกคนมีอารมณ์ร่วมกันมันได้”