HIGHLIGHT CONTENT

ถล่มยักษ์ให้ราบ!! กว่าจะเป็น I Kill Giants สร้างโลกของยักษ์และไล่ฆ่ามัน

  • 9,740
  • 04 พฤษภาคม 2018

บทสัมภาษณ์ โจ เคลลี่ คนเขียนนิยายภาพและมือเขียนบท I Kill Giants

 

นิยายภาพ  I Kill Giants  ไอเดียนั้นมาได้อย่างไรและนำไปพัฒนาต่ออย่างไรบ้าง

โจ เคลลี่: คำตอบคือผมเป็นพ่อคน ผมมีลูกสอง ลูกสาวของผมอายุจะประมาณ 5 หรือ 6 ขวบ และผมได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และทำให้ผมคิดถึงประเด็นสำคัญเท่าที่คนๆหนึ่งคิดได้ ผมคิดถึงมันผ่านสายตาของลูกสาวที่แก่นเซี้ยวและแข็งแกร่ง และผมกำลังพาเธอเข้าสู่วัฒนธรรมกีคที่ผมรัก และไม่ได้ยึดติดนัก เธอมีความเข้าใจในหนังเจ๋งๆ แต่ไม่ได้พาเธอเข้าสู่โลกของหนังสือการ์ตูน ดังนั้นตัวละครของบาร์บาร่ามาจากจากการวาดภาพเธอให้เป็นคนที่มีอายุมากกว่า วาดภาพให้เธอเป็นใครสักคนที่มีความชาญฉลาดและปากไว แต่เป็นคนที่สนใจเกมแบบ Dungeons& Dragons และเกมแฟนตาซี อะไรประมาณนั้น และสร้างโลกของ I Kill Giants และเชื่อว่ายักษ์กำลังมา แล้วเธอต้องฆ่ามัน

 

 

กระบวนการในการดัดแปลงหนังสือสู่ภาพยนตร์

โจ เคลลี่:   ผมโชคดีพอที่ได้พบกับ เคน นิอิมูระ ที่เป็นผู้สร้างร่วมและเขาก็วาดนิยายภาพได้สวย ผมเขียนบทเรียบร้อยแล้ว เมื่อผมเขียนสคริปท์นิยายภาพ ผมก็ชอบมันมาก ผมจึงเขียนใหม่ให้เป็นสคริปท์ที่ลงรายละเอียด ตลอดการพูดคุยกับผู้คนในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะผู้กำกับ อันเดอร์ส วอลเตอร์ เราก็พูดถึงองค์ประกอบที่จะทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่าง เพราะคุณสามารถทำอะไรได้ในหนังสือโดยอิงจากความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างผู้อ่านและหนังสือการ์ตูน สิ่งที่คุณจินตนาการ กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างช่องการ์ตูน และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ความรู้สึกจากสิ่งเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อคุณได้รับชมภาพยนตร์ที่คุณไม่สามารถควบคุมการดำเนินเนื้อเรื่องได้ บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหนังสือจะทำลายข้อสงสัยที่ว่า สิ่งที่บาบาร่ากำลังเผชิญคือเรื่องจริงหรือจินตนาการของเธอ ผมคิดว่าคำถามนี้เกิดขึ้นตลอดเวลาที่ได้รับชม เพราะว่าเรื่องราวนี้เล่าจากมุมมองของเธอเอง ดังนั้นเราจึงต้องเลือกจุดที่เหมาะสมสำหรับการหยิบมาใส่ในหนัง และเปลี่ยนภาพเหล่านั้นให้กลายเป็นฉากในภาพยนตร์ เพราะว่าฉากเหล่านั้นมีคุณค่าในด้านการบรรยายในสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เธอสื่อสารด้วยวิธีพูด เราต้องการให้เธอสื่อสารผ่านทางสภาพจิตใจ และการสิ่งอื่นๆ ที่คุณจะได้รับชมในภาพยนตร์ มันจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับผมครับ

 

 

คุณเคยรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อแฟนมากกว่าตัววัตถุดิบดั้งเดิมหรือเปล่า หรือไม่
เป็นเพราะตัวคุณเองยึดติดวัตถุดิบดั้งเดิม

โจ เคลลี่: ใช่ ผมคิดอย่างที่คุณพูด ผมเป็นแฟนตัวยง นี่มาจากความกล้าของผมและแม้ว่าผมจะเชื่อมั่นก็ตาม มันมีคำพูดที่ว่าผู้ชมคือผู้ร่วมงานครั้งสุดท้าย ดังนั้นไม่ว่าผู้อ่านหรือคนดูหนัง พวกเขาต่างถือกรรมสิทธิ์ของสิ่งนั้น แฟนๆ ผู้คนที่ชื่นชอบ ผมมีรอยสักนะ รอยสัก I Kill Giants แล้วผมไม่ใช่คนแรกที่มีรอยสัก I Kill Giants แต่ผมก็ตระหนักรู้เพราะผมเป็นพวกเขาและสิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับที่ว่ามันเป็นหนังสือหรือโปรเจกต์ที่ผมเขียนขึ้น ผมรู้สำหรับตัวเองว่าสิ่งหนึ่งสามารถยืดหยุ่นได้อย่างไรก่อนที่มันไม่ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่คุณตกหลุมรักเพราะผมเป็นแฟนทุกแนวและทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อเห็นบางอย่างถูกแปล ผมจึงสวมบทหน้าที่เป็นแฟนเช่นเดียวกับคนเขียบท ผมจึงตระหนักรู้แน่นอนและความหวังของผมคือคนที่ได้อ่านหนังสือจะได้ความรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขารู้เรื่องราวและจะเห็นฉบับที่แตกต่างซึ่งเป็นเพื่อนคู่เคียงที่ดีเยี่ยม ผมคิดว่ามันจะยกระดับประสบการณ์ที่พวกเขามีต่อหนังสือเพราะมันเป็นการให้เกียรติ มีคำพูดและฉากหลายอย่างที่ออกมาจากหนังสือ และทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ผมคิดว่าแฟนๆจะปลื้ม

 

 

คุณอยากให้ผู้คนอ่านหนังสือก่อนหรือดูหนังก่อนเพราะคุณสามารถมีประสบการณ์กับเรื่องราวนี้เป็นครั้งแรก

โจ เคลลี่: นั่นเป็นคำถามที่ดีเยี่ยม ผู้คนที่ผมรู้เหมือนตัวคุณเองที่ได้อ่านหนังสือจะได้อะไรมากมายจากหนังเรื่องนี้ ผมยังไม่เคยเห็นใครที่พูดว่า “ฉันสนุกกับหนังไม่ได้เพราะฉันรู้เรื่องราวหมดแล้ว” ผมจึงมีคำตอบว่าไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งก็โอเค ผมคิดว่าคุณสามารถดูหนังและหาหนังสือมาอ่านแล้วเห็นว่ามันแตกต่างอย่างไร เพราะอย่างที่ผมบอก หนังสือนั่นน่ะ มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่นิยายภาพทำได้มากกว่าตัวหนัง และมีความเป็นศิลปะในแนวทางที่แตกต่างซึ่งมีนสนุกกับการได้สำรวจ และบาร์บาร่าก็มีความแข็งแกร่งกว่าบ้างในหนังสือซึ่งมันเจ๋งดี แต่หนังเรื่องนี้มีความลุ้นระทึกทางความรู้สึกในคราวเดียวกันจนผมคิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์สำหรับผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังที่เราคุ้นชิน มันคือการดัดแปลงหนังสือการ์ตูนที่ไม่ใช่แนวซูเปอร์ฮีโร่ นั่นจึงเป็นความตื่นเต้นในตัวมันเอง