HIGHLIGHT CONTENT

บทสัมภาษณ์ "ชาคริต แย้มนาม จาก สีเรียงเซียนโต๊ด"

  • 9,549
  • 08 ม.ค. 2014

บทสัมภาษณ์ ชาคริต แย้มนาม กับผลงานภาพยนตร์ล่าสุด “สีเรียงเซียนโต๊ด”

หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์มากความสามารถทั้งการแสดงและพิธีกร “ชาคริต แย้มนาม” ผลงานการแสดงที่ผ่านมา อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง รักออกแบบไม่ได้(1998) / กุมภาพันธ์(2003) / โอปปาติก(2007) / A Moment in June ณ ขณะรัก(2008) / ตีสาม 3D(2012) เป็นต้น รวมถึงยังมีผลงานการแสดงภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง Belly of the Beast(2003) ร่วมงานกับ Steven Seagal(สตีเว่น ซีกัล) และ Bangkok Dangerous(2008) ร่วมงานกับ Nicolas Cage(นิโคลัส เคจ) ด้านผลงานการแสดงละครโทรทัศน์อีกมายมาย ตลอดจนละครซิตคอมเรื่อง เป็นต่อ ที่โด่งดังสร้างชื่อให้กับเขาเป็นอย่างมาก นอกจากฝีมือทางการแสดงเขายังเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ปลายจวักด้านฝีมือทำอาหารดีเยี่ยม เขาจึงได้รับเลือกเป็นพิธีกรรายการอาหาร ครัวแล้วแต่คริต(ช่อง3) และ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย(ช่อง7) ล่าสุด เตรียมพบกลับการพลิกบทบาทของเขาอีกครั้ง ในบทนักมายากล ที่มาพร้อมกับลีลาโชว์กลไพ่ สลับไพ่อย่างว่องไวระดับเซียน ในภาพยนตร์เรื่อง สีเรียงเซียนโต๊ด แนวดาร์ค-คอมเมดี้ เชิงเสียดสีล้อเลียนสังคมด้วยอารมณ์ชวนฮา ผลงานกำกับของ แมน-ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ โดยร่วมแสดงกับนักแสดงคุณภาพอย่าง เทพ โพธิ์งาม, โจ๊ก อัครินทร์ และ จุ๊บ ภัทรา ที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกจนวุ่นวายกับภาพยนตร์ในครั้งนี้ เล่าถึงบทบาทล่าสุดในภาพยนตร์ครั้งนี้หน่อย รับบทเป็น โต๊ด นักมายากลที่มีความสามารถในเรื่องการสลับไพ่ โชว์กลไพ่ เป็นคนที่จริงจังกับชีวิต และมีความฝันที่อยากจะมีเงิน เพื่อไปเปิดร้านอาหารสร้างเนื้อสร้างตัวและขอแฟนแต่งงานครับ เป็นคนที่รักแฟนมากตั้งใจจะขอแฟนแต่งงาน แต่ตัวโต๊ดเองก็ยังไม่มีอนาคตพอ เหมือนเป็นปมที่ผู้ชายในโลกหากเป็นแบบนี้มันเป็นปมที่หนักมากนะ เราไม่สามารถให้อะไรกับผู้หญิงที่เรารักได้ ก็เลยต้องมีการเสี่ยงโชค เสี่ยงดวงกันเกิดขึ้น บทบาทสำคัญของ โต๊ด เพราะความสามารถด้านกลไพ่ของ โต๊ด ทำให้เซียนกับเรียงทาบทามให้ไปช่วย ด้วยมิสชั่น คือ การโกงในบ่อนการพนัน โกงบรรดาเสี่ย เพื่อให้ได้เงินมา บทบาทสำคัญของโต๊ดในเรื่องนี้ คือเป็นนักพนัน ในขณะที่จุ๊บ เป็นนางนกต่อ แต่ทางเรียงกับเซียน ปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดของเรา ซึ่งเราก็จะต้องใช้ความสามารถการสลับไพ่โกงเอาเงินมาให้ได้ เรื่องราวของ สีเรียงเซียนโต๊ด เริ่มต้นที่ เซียนกับเรียง สองคนนี้เขาเป็นน้าหลานกัน คนนึงก็พนันบอล อีกคนก็ขายพระปลอม ทำงานที่ทุจริตอบายมุข กำลังต้องหาคนมาร่วมแก๊งเพื่อไปโกงบ่อนไพ่ และเพื่อได้เงินก้อนใหญ่ พวกเขาก็เห็นแววของโต๊ด ผมจึงเป็นหนึ่งคนที่เขาจับตาอยู่ว่ามีความสามารถในเรื่องของไพ่ ด้วยความที่ผมเองก็กำลังตกอับเลยต้องการหาโอกาส หาเงินแต่งงานจึงตอบตกลง และก็มี ศรี เข้ามาในทีม ทำหน้าที่เป็นนางต่อ พวกเราจึงเริ่มวางแผนการโกง ไปเสี่ยงดวงเสี่ยงตายเพื่อทำให้ฝันของพวกเราแต่ละคนเป็นจริง เตรียมพร้อมกับบทบาทนี้อย่างไรบ้าง หลักๆเป็นเรื่องของแอ็คชั่นตอนเล่นไพ่ ตอนลุ้นไพ่มากกว่า มีสับไพ่บ้าง แต่คนที่สับไพ่เก่งจริงๆเขาฝึกกันมานานนับ 10 ปี ก็มีฝึกซ้อมที่หน้ากองก่อนถ่ายจริงครับ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเตรียมตัวพิเศษ ทุกอย่างฮา เมา เละ สภาพไม่เต็มร้อย เพราะในเรื่องเวลาที่ได้โชคมาพวกเราก็จะเฮฮาปาร์ตี้ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหล่อเลยครับ(ยิ้ม) การปรัลลุค หลากหลายชุดที่ต้องใส่เพื่อการแสดงครั้งนี้ โต๊ดจะเป็นผู้ชายเซอร์ๆครับ เวลาแสดงโชว์กลไพ่ก็ต้องปรับลุคให้ดูเป็นนักมายากลจริงๆ แต่เวลาที่เราต้องไปบ่อน ปรับลุคใหม่ใส่สูท เพื่อให้ดูสมกับเป็นเซียนไพ่ มาดจะนิ่ง ขรึม หรือชุดปอเต๊กตึ๊งปลอมตัวเข้าไปในบ่อนก็มีครับ แตกต่างกับบทที่เคยแสดงมากน้อยอย่างไร เป็นบทที่ตลกและแตกต่าง กว่าอื่นๆที่เคยเล่น เพราะด้วยสไตล์ของหนังกับคาแรคเตอร์ที่พี่แมนสร้างขึ้นมา ออกแนวแบบกวนๆ มันกวนหน้าด้านๆ แตกต่างจากบทที่เคยรับไหม ถึงจะเป็นคอมเมดี้ ผมคิดว่าทุกบทบาทก็แตกต่างกันอยู่แล้วครับ เล่าถึงฉากที่ประทับใจในเรื่องนี้สักหน่อย และทำไมถึงประทับใจเป็นพิเศษ ฉากตลกครับ เป็นฉากที่เซียน(ป๋าเทพ)ถูกจับตัว แล้วพวกเราก็ต้องบุกเข้าไปช่วย พอเปิดประตูเข้าไปในห้องเห็นสภาพแล้วมันฮาดี จริงๆมีหลายฉากนะ อยากให้ไปดูกันมากกว่า มันเล่าไม่ได้เพราะทุกฉากตลกหมดเลยครับ ผมชอบทุกฉาก เอาเป็นว่าคืนไหนดึกเป็นพิเศษดีกว่า ดึกที่ประทับใจก็น่าจะเป็น คืนที่ถ่ายถึง ตี4 ตี5 เป็นฉากคาสิโน่ที่ไปปอยเปรต แล้วถูกจับได้ก็ต้องหนีกัน หนีเข้า หนีออก วนๆอยู่ทั้งคืน ปาไปตี 4 แมน ศุภกิจ ถือว่าเป็นรุ่นพี่นักแสดงสุดซี้เลย พอได้มาร่วมงานกันในฐานะผู้กำกับ กับนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับพี่แมน ฝันกันมานาน คุยกันมานานเราน่าจะทำอะไรร่วมกัน หรือเมื่อไหร่เขาจะกำกับ จากจุดเริ่มต้นตอนนั้นคิดก็เลยทำกันเลย ทำหนังสั้นขึ้นมาก่อนก็ไม่เคยคิดว่ามันจะได้เป็น Go So Big ขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าทำกันดูกันเล่นๆ แต่พี่แมนก็เอาไปให้ทางสหมงคลฟิล์มดู คุณเสี่ยแกก็ขำตลกชอบ เลยอนุมัติให้ทำโปรเจกค์นี้ขึ้นมา ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้(ยกมือไหว้) สานฝันให้พี่แมนได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำครับ การร่วมงานกับพี่แมนเหมือนไม่ได้ทำงาน(555) เพราะเรารู้จักกันอยู่แล้ว เวลาเขาพูดอะไรมาเราเข้าใจฟิวเขา พี่แมนค่อนข้างไว้ใจ แล้วก็เป็นหน้าที่ของนักแสดงที่ต้องเข้าใจกัน ส่วนใหญ่ก็มีการปรับขึ้นปรับลงนิดหน่อยไม่มีอะไรมาก ทำงานง่ายมาก ทำงานกันแบบอบอุ่น เร่งๆรีบๆบ้านไกลเวลาน้อย(555) การร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง เราเคยเจอกันมาหมดแล้วอย่าง โจ๊ก อัครินทร์ เป็นรุ่นน้องเจอกันบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมงานกันแต่เจอแบบผ่านไปมา ส่วนใหญ่โจ๊กจะได้ร่วมงานกับเพื่อนผม กับเรย์ แมคโดนัล ส่วนจุ๊บ ภัทราก็สนิทอยู่แล้ว ป๋าเทพไม่ต้องพูดถึงเลย แกอยู่ในวงการมานานเรื่องฝีมือการแสดง ผมคิดว่าเหมือนป๋าเทพมาปิกนิค ไม่ต้องทำอะไรมากแกก็ตลกอยู่แล้ว ในขณะที่พอเข้าไปอยู่ในตัวละครมันก็เพอร์เฟคมาก ทุกคนจะมีคาแรคเตอร์ชัดเจน จุ๊บก็จะแบบพลังเยอะมากจ่ายค่าตัว 100 เล่นไป 500 บอกให้ทำอะไรก็ทำได้หมด ส่วนโจ๊กตั้งใจมุทะลุแบบเบลอๆ ก็เข้าดี มารวมตัวกันมันก็ดี เป็นกระแสพลังงานที่ ไม่เหมือนกันสักคนแล้วมันต้องมาอยู่ด้วยกัน 4 คน มันเลยเกิดความทะเล้น ความตลก ความสนุกที่มันลงตัวเวลามาเข้าฉากด้วยกัน สไตล์การฮา มุกตลกในภาพยนตร์เป็นประมาณไหน จะเป็นตลกด้วยเหตุการณ์ ตลกด้วยสถานการณ์ แต่คงไม่ได้ตลกแบบโป๊งชึ่ง เป็นความตลกสันดานที่มันรั่วของตัวละครมากกว่า ตัวละครจะรั้วรั่ว มีมุมรั่วของตัวเองบนความตั้งใจ จะไปโกงชาวบ้านเข้าไปในถิ่นของเสี่ย เชื่อว่ามันทำได้ เป็นความฝันที่อยู่บนพื้นฐานของความเศร้าแต่ออกมาแล้วตลก ความฮาหรือมุกตลกจะประมาณเทคที่3 เพราะทุกคนมาเต็มเหลือเกิน ทุกคนจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง เราไม่ได้มีซ้อมจังหวะตลกทุกอย่างตามธรรมชาติ เล่นจนกว่าความเป็นธรรมชาติจะลงตัวกัน ซึ่งก็บางทีมี 3 เทค 4 เทค แทบจะไม่ได้ซ้อมการแสดงกันเลยดีกว่า คือเอาความธรรมชาติของการแสดงที่เราเข้าใจและของ 4 คนมาจูนให้มันเข้ากัน ฝากผลงานล่าสุด สีเรียงเซียนโต๊ด เข้าฉาย 30 มกราคม เจอกันแน่นอน ฝากผลงานภาพยนตร์ด้วยครับ จะได้เห็นผมในอีกบทบาท ที่รับรองว่า ติ๊งต๊องมาก หวังว่าทุกคนจะชอบครับ